เรามาทำความรู้จักกองทุนผสมยอดเยี่ยม -กองทุนเปิดไทยพาณิชย์มิกซ์ สไปซี่ (ชนิดสะสมมูลค่า) ผ่านบทสัมภาษณ์กันเลยค่ะ
คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้กองทุนของคุณมีผลการดำเนินงานที่ดีในปี 2024
ในช่วงต้นปีของทุกปี ทีมผู้จัดการกองทุนจะแสวงหากลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าของเรา และปี 2024 ก็ไม่แตกต่างกัน โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์มิกซ์ สไปซี่ (ชนิดสะสมมูลค่า) (SCBSPICYA) ได้เริ่มมีการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (PF/REITs/IFF) แบบรายตัว ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่เรามีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว ซึ่งการลงทุนแบบรายตัวทำให้เราสามารถปรับพอร์ตการลงทุนให้มีความเชิงรุกมากขึ้น ทั้งในแง่ของการคัดเลือกหลักทรัพย์ (Security Selection) และการกระจายการลงทุนตามประเทศ (Country Allocation) โดยเราสามารถเข้าลงทุนใน PF/REITs/IFF คุณภาพสูงของไทยในช่วงที่มูลค่าต่ำมาก และในขณะเดียวกันยังได้รับประโยชน์จากการให้น้ำหนักการลงทุนใน PF/REITs/IFF ไทยในระดับสูง ก่อนที่ตลาดจะปรับตัวขึ้นในไตรมาสที่ 3
สำหรับการลงทุนในต่างประเทศ เราได้มีการลงทุนในธีมการลงทุนที่ได้รับความนิยมในปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการให้น้ำหนักการลงทุนเป็น Overweight ในกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ในช่วงครึ่งปีแรก และการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นโลกและสหรัฐฯ เป็นส่วนใหญ่ตลอดปี 2024 นอกจากนี้ เราได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และสามารถสร้างผลตอบแทนจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ในไตรมาสที่ 4
คุณมีการจัดสัดส่วนการลงทุนอย่างไรในการรับมือกับการผันผวนของตลาดในปี 2024
แม้ว่าทางทีมผู้จัดการกองทุนจะลดการลงทุนในหุ้นไทยลงอย่างมากตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุน แต่หุ้นไทยยังคงเป็นสัดส่วนที่สำคัญในพอร์ตการลงทุน อย่างไรก็ตาม เราได้มีมุมมองว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่จะฟื้นตัวในปี 2024 ทางทีมผู้จัดการกองทุนจึงคงน้ำหนักการลงทุนไว้ แม้จะมีการทบทวน Strategic Asset Allocation (SAA) ในช่วงกลางปี โดยในภายหลัง ตลาดหุ้นไทยได้มีการปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานของพอร์ตการลงทุน และช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนในตลาดหุ้นโลก
ในช่วงครึ่งปีหลัง เราประเมินว่าอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนของธีมการลงุทนที่ได้รับความนิยมบางธีมเริ่มไม่เอื้ออำนวย เราจึงสามารถหลีกเลี่ยงการขาดทุนอย่างหนักจากการลงทุนในธีมที่มีมูลค่าสูงเกินไป เช่น กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน AI และตลาดหุ้นอินเดีย การลดความเสี่ยงเชิงรุกในช่วงเวลาดังกล่าวให้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อพอร์ตการลงทุน นอกจากนี้ การมีสัดส่วนการลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐช่วยลดความผันผวนของตลาดหุ้น เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์สามารถชดเชยการปรับลดลงของตลาดหุ้นได้บางส่วน
อะไรคือจุดแข็งของทีมบริหารการลงทุนของคุณที่ทำให้กองทุนนี้ประสบความสำเร็จ
เรามีทีมที่ประกอบไปด้วยบุคลากรที่มีความหลากหลายทั้งในด้านทักษะและประสบการณ์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการระดมความคิดและการถกเถียงเรื่องการลงทุน อันเป็นหัวใจหลักของกระบวนการลงทุนของเรา โดยสมาชิกแต่ละคนมีบทบาทในการวิเคราะห์ในอุตสาหกรรม ประเทศ และประเภทสินทรัพย์ที่ได้รับมอบหมาย
นอกจากนี้ ทางทีมยังมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวได้ดีต่อการเปลี่ยนแปลงของภาวะการลงทุน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในสภาวะตลาดที่มีความซับซ้อนและมีการแข่งขันสูง โดยเรามุ่งมั่นพัฒนาเครื่องมือและกระบวนการลงทุนของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของตลาดและก้าวทันคู่แข่งอยู่เสมอ
อีกทั้งเราใช้แบบจำลองเชิงปริมาณและปัญญาประดิษฐ์ที่พัฒนาขึ้นภายในองค์กร ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การตัดสินใจลงทุน การกำหนดสัดส่วนการลงทุน ไปจนถึงการบริหารความเสี่ยง นอกจากนี้ ทางทีมยังมีการแลกเปลี่ยนมุมมองและข้อมูลเชิงลึกกับทีมอื่นๆ ภายในกลุ่มการลงทุนของทางบลจ. ไทยพาณิชย์ เพื่อเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับตลาด
คุณมีมุมมองเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจในปี 2025 อย่างไร และคิดว่าจะส่งผลกระทบกับการตัดสินใจลงทุนของคุณอย่างไรบ้าง
บลจ. ไทยพาณิชย์ คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะยังคงมีเสถียรภาพและเติบโตต่อเนื่อง และไม่น่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2025 สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้จะยังแข็งแกร่งและเติบโตต่อเนื่อง แต่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ตั้งเป้าหมายไว้ ส่งผลให้ท่าทีต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงินมีความระมัดระวังมากขึ้น นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางนโยบายมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจเผชิญแรงกดดันจากภายนอก นโยบายการคลังและการเงินมีโอกาสที่จะถูกนำมาใช้ได้อย่างรวดเร็วเพื่อรองรับสถานการณ์ ในส่วนของจีน รัฐบาลและผู้นำระดับสูงได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ และได้เริ่มดำเนินการแล้ว ปัจจัยเหล่านี้ทำให้โอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการปรับฐานครั้งใหญ่ของตลาดหุ้นโลกลดลง ซึ่งสนับสนุนให้เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงในพอร์ตการลงทุน
ในทางกลับกัน เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนเชิงมหภาคและปัจจัยลบภายในประเทศ แม้ว่าการฟื้นตัวในระยะสั้นจะได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ แต่เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายในเชิงโครงสร้าง ทั้งในเรื่องหนี้ครัวเรือน สัดส่วนประชากร และความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับแรงกดดันจากปัญหาธรรมาภิบาล ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่อยู่ในระดับต่ำ และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ไม่โดดเด่น ด้วยเหตุนี้ เราจึงยังคงมีมุมมองเชิงระมัดระวังต่อตลาดหุ้นไทย
ความเสี่ยงใดที่คุณกังวลมากที่สุดสำหรับปี 2025 และ คุณมีวิธีจัดการพอร์ตการลงทุนเพื่อรับมือกับความเสี่ยงเหล่านั้นอย่างไร
ทางทีมผู้จัดการกองทุนมองว่าความเสี่ยงที่สำคัญที่สุดในปี 2025 ได้แก่ การปรับขึ้นภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐฯ และจีนอย่างมีนัยสำคัญ การแตกของฟองสบู่ในตลาดการเงิน และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แม้ว่าความเป็นไปได้ของเหตุการณ์เหล่านี้จะอยู่ในระดับต่ำ แต่ยังคงมีโอกาสเกิดขึ้นในรูปแบบที่รุนแรงน้อยกว่า ซึ่งอาจนำมาทั้งความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนในปีนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คาดว่าจะยังคงมีความยืดหยุ่นและได้รับผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ น้อยกว่าตลาดอื่นๆ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้เรายังคงให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในระดับสูง แม้ว่าระดับมูลค่าหุ้นในตลาดสหรัฐฯ จะอยู่ในระดับสูง แต่บริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะในภาคเทคโนโลยี ยังคงมีอัตราการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งกว่าบริษัทจดทะเบียนในประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากตลาดหุ้นแล้ว สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ ด้วยเหตุนี้หนึ่งในธีมการลงทุนหลักของเรายังคงเป็น US Exceptionalism โดยคาดว่าดอลลาร์สหรัฐจะยังคงแข็งค่าได้ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง บทบาทในฐานะสกุลเงินสำรองหลักของโลก และแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าน้อยกว่าสกุลเงินอื่นๆ นอกจากนี้ดอลลาร์สหรัฐยังมีความสามารถในการลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน เนื่องจากมีความสัมพันธ์เชิงลบกับสินทรัพย์เสี่ยง
อย่างไรก็ตาม โอกาสการสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดอาจอยู่ในตลาดและกลุ่มอุตสาหกรรมที่ถูกลดน้ำหนักโดยนักลงทุนที่ต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงข้างต้นไปแล้ว โดยในปีนี้ เราเล็งเห็นถึงโอกาสในการลงทุนใน PF/REITs/IFF รวมถึงตลาดอินโดนีเซีย อินเดีย จีน และเวียดนาม โดยเฉพาะหากความเสี่ยงจากสงครามการค้าและท่าทีเชิงเข้มงวดของธนาคารกลางไม่รุนแรงอย่างที่ตลาดคาดการณ์