Awards Winner – Equity Large-Cap

บทสัมภาษณ์ Morningstar Awards for Investing Excellence 2025 กองทุนรวมหุ้นขนาดใหญ่ยอดเยี่ยม -กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ ชนิดจ่ายเงินปันผล

Morningstar 16/03/2568
Facebook Twitter LinkedIn

1

เรามาทำความรู้จักกองทุนรวมหุ้นขนาดใหญ่ยอดเยี่ยม - กองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนด์ ชนิดจ่ายเงินปันผล ผ่านบทสัมภาษณ์กันเลยค่ะ

ปัจจัยใดที่ทำให้กองทุนสามารถได้รับรางวัล Best Thailand Equity Large-Cap Fund ติดต่อกันเป็นปีที่สอง

การที่กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นไฮดิวิเดนด์ (KT-HiDiv-D) มีผลการดำเนินงานที่สามารถได้รับรางวัลติดต่อกันเป็นปีที่สองนั้น เป็นผลจากการบริหารกองทุนแบบ Active และให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ลงลึกรายบริษัท (Bottom-up approach) โดยผู้จัดการกองทุนคัดเลือกหุ้นที่มีคุณภาพของกำไรที่ดี โดยให้ความสำคัญกับหุ้นที่จ่ายเงินปันผลที่ดีสม่ำเสมอ คัดเลือกหุ้นที่มีมูลค่าที่ดีที่มีราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงและเหมาะสมกับศักยภาพในการเติบโต  โดยหลีกเลี่ยงการไล่ซื้อหุ้นที่ราคาได้สท้อนความคาดหวังที่สูงมาก ขณะเดียวกันผู้จัดการกองทุน มีการติดตามสถานการณ์ต่างๆและปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุนอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนหลักทรัพย์เมื่อสถานการณ์และข้อมูลของหลักทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ กลยุทธ์การบริหารกองทุนดังกล่าวช่วยให้กองทุนมีผลการดำเนินงานที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง

คุณมีวิธีรับมือกับการผันผวนของตลาดในปี 2024 อย่างไร

ในภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง การคัดเลือกหุ้นเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งผู้จัดการกองทุนได้ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ติดตามและใช้ข้อมูลเชิงคุณภาพและปริมาณจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายเพื่อทำการประเมินมูลค่าหุ้น และค้นหาหุ้นที่ราคาตลาดยังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กองทุน และการวิเคราะห์เชิงลึกยังช่วยหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการลงทุนในหุ้นที่มีโอกาสพลาดเป้าประมาณการผลการดำเนินกิจการ ทั้งนี้การประเมินสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและทบทวนพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่องของผู้จัดการกองทุนจะทำให้สามารถปรับพอร์ตการลงทุนได้ทันต่อสถานการณ์ ช่วยลดความเสี่ยงที่กระทบต่อพอร์ตการลงทุน และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างสม่ำเสมอ ขณะเดียวกัน การให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลการดำเนินงาน และความสามารถในการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอของบริษัท ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยรับมือกับการผันผวนของตลาดในปี 2024

อะไรคือจุดแข็งของทีมบริหารการลงทุนของคุณที่ทำให้กองทุนนี้ประสบความสำเร็จ

บลจ. กรุงไทย มีการร่วมกันทำงานแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่าง ทีมผู้จัดการกองทุน ทีมกลยุทธ์การลงทุน ทีมวิจัยภายใน บลจ. และ คณะกรรมการจัดการลงทุน โดยในทีมลงทุนมีการสื่อสารข้อมูลความคิดเห็นในทีมอย่างสม่ำเสมอ และใช้ความสามารถในการเลือกหุ้นที่ผู้จัดการกองทุนมีความเชี่ยวชาญในแต่ละสถานการณ์ตลาด เพื่อให้สามารถคัดสรรหุ้นและให้น้ำหนักลงทุนรายหุ้นสอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป  ขณะเดียวกัน ทีมลงทุนประกอบด้วยบุคคลากรที่มีประสบการณ์ในตลาดหุ้น มีการศึกษารายละเอียดและติดตามข้อมูลของหลักทรัพย์อย่างสม่ำเสมอ และมีวินัยในการลงทุนตามแผนการ  พร้อมกันนั้น ทีมกลยุทธ์การลงทุนยังช่วยประเมินสถานการณ์ของแต่ละสินทรัพย์ในภาพ Top Down และ ทีมวิจัยภายใน บลจ. ช่วยสนับสนุนให้ข้อมูลรายหลักทรัพย์ในเชิงลึก ทำประมาณการผลการดำเนินงาน  และให้คำแนะนำในลักษณะของการมองไปข้างหน้าเพื่อประเมินหามูลค่าที่เหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานของหุ้น และมีคณะกรรมการจัดการลงทุนช่วยกลั่นกรองให้การลงทุนอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม     

คุณมีมุมมองเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจและหุ้นไทยโดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ในปี 2025 อย่างไร

บลจ. กรุงไทยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2025 จะเติบโตได้ประมาณ 2.9% ต่อปี จากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ภาครัฐขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่าย การลงทุน และการออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในขณะที่ปัจจัยเสี่ยงมาจาก ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงจะกระทบต่อการบริโภคภายในประเทศ การผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทยถูกกดดันจากความสามารถในการแข่งขัน  และการส่งออกมีแนวโน้มชลอตัวลง ตามปริมาณการค้าทั่วโลกที่คาดว่าจะลดลงจากนโยบายกีดกันทางการค้า ในขณะที่ดอกเบี้ยในประเทศคาดว่าจะปรับลดลงได้ในช่วงครึ่งหลังของปีจากเงินเฟ้อในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำและแนวโน้มดอกเบี้ยของประเทศหลักๆอยู่ในแนวโน้มขาลง 

ในส่วนของตลาดหุ้นไทยในปีนี้  คาดว่าจะมีความผันผวนสูงและผลตอบแทนจากการลงทุนมีความไม่แน่นอน  เรามีมุมมองระมัดระวังต่อแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนท่ามกลางความไม่แน่นอนของการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐ กระแสเงินไหลออกของนักลงทุนต่างชาติ และการชลอตัวของการบริโภคของไทยจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยในปีนี้จะมาจากการคาดการณ์กำไรปี 2025 ที่สูงขึ้นของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้มาจากกิจการในประเทศ เนื่องจากฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว ในขณะเดียวกัน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเติบโตอย่างต่อเนื่องของการท่องเที่ยว และการลงทุนใหม่ ๆ จะช่วยเสริมสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งจะชดเชยผลกระทบเชิงลบจากการส่งออกที่ชะลอตัวได้

นอกจากนี้ ระดับราคาปัจจุบันของหุ้นไทยส่วนใหญ่ มีมูลค่าที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน โดยราคาหุ้นที่ปรับลงได้สท้อนปัจจัยลบด้านปัจจัยเศรษฐกิจและข่าวเชิงลบรายหลักทรัพย์ที่ประกาศออกมาพอสมควร ดังนั้น การลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพกำไรที่สม่ำเสมอ ฐานะการเงินมั่นคง และจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ น่าจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยได้

ความเสี่ยงใดที่คุณกังวลมากที่สุดสำหรับปี 2025 และ คุณมีวิธีจัดการพอร์ตการลงทุนเพื่อรับมือกับความเสี่ยงเหล่านั้นอย่างไร

ในปีนี้ความเสี่ยงที่น่ากังวลมากที่สุดมาจากการพลาดเป้าการเติบโตของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยที่อาจเติบโตได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจไทยที่เติบโตได้น้อยกว่าคาด อันเกิดจากมาตราการกีดกันการค้าที่ส่งผลกระทบรุนแรง ภาวะการเงินตึงตัวจากอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่อยู่สูงนานขึ้น  ทำให้การปรับลดดอกเบี้ยของไทยชลอออกไป

หากความเสี่ยงดังกล่าวเกิดขึ้น เราควรจัดพอร์ตโดยเน้นลงทุนในบริษัทที่สามารถอยู่รอดท่ามกลางความผันผวนดังกล่าวได้อย่างแข็งแกร่ง มีความยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจและการเงิน เช่น มีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง มีความสามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ  และลดการลงทุนในหุ้นที่ราคาสูง จากความคาดหวังการเติบโตของกำไรที่สูง ขณะเดียวกันเลือกลงทุนในกลุ่มหุ้นที่รายได้หลักมาจากการดำเนินธุรกิจในประเทศมากกว่ากลุ่มที่พึ่งพาตลาดต่างประเทศและมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและมาตารการกีดกันทางการค้า

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar  Morningstar