กองทุน Pimco Income ยังเป็นที่นิยมของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง หากดูจากสถิติในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านพบว่าในกลุ่ม Multisector bond มีเงินทุนไหลเข้ากองทุน Pimco Income ประมาณ 1,900 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 68% ของเม็ดเงินที่ไหลเข้ากองทุนในกลุ่มดังกล่าว ขณะที่ปีนี้ทั้งปีมีเงินไหลเข้าแล้วรวมกว่า 12,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับเป็นกองที่มีเงินไหลเข้ามากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ในปีนี้
ทั้งนี้ ในกลุ่ม Taxable bond fund ด้วยกัน Pimco Income มีขนาดสินทรัพย์ 151,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 รองจากกอง Vanguard Total Bond Market และนับเป็นกอง Active taxable bond fund ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตอนนี้
ผลการดำเนินงานของ Pimco Income
Pimco Income ให้ผลตอบแทนที่ดีเฉลี่ย 7.5% ต่อปีในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา และเหนือกว่ากองอื่นๆในกลุ่มเดียวกันที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 4.8% และมากกว่า Morningstar Core Plus Bond Index ซึ่งให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.8% ต่อปี
ทั้งนี้ในอดีตนั้น ผู้จัดการกองทุนอย่าง Bill Gross (เขาร่วมงานกับ Pimco ในปี 1971) หรือที่รู้จักในชื่อ Bond King ได้สร้างผลการดำเนินงานที่ดีมากให้กับกองทุนที่เขาบริหารจัดการหรือ Pimco Total Return อย่างมาก โดยกองทุน Pimco Total Return นั้นมีผลงานที่ดีและดึงดูดเงินลงทุนจนในปี 2013 มีมูลค่ากองมากกว่า 290,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่หลังจากที่ Bill Gross ได้ลาออกไปจาก Pimco ในปี 2014 มูลค่าเงินทุนของกองทุนก็ยังมีอยู่มากกว่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ดีในตอนนั้น
ต่อมาบริษัทได้แต่งตั้ง Daniel Ivascyn ผู้จัดการของ Pimco Income ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนคนใหม่ให้กับ Pimco (เขาร่วมงานกับ Pimco ในปี 1998 และเป็นผู้บริหารกองทุน Pimco Income มาตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2007) ซึ่งหลังจากที่ Bill Gross ได้ลาออกไปทำให้มีเงินทุนบางส่วนไหลออกจาก Pimco Total Return เข้าสู่กองทุน Pimco Income ประมาณ 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงต้นปี 2014 และด้วยผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องของ Pimco Income ทำให้มูลค่ากองทุนยังคงเพิ่มขึ้น ขณะที่ Pimco Total Return มีขนาดที่ลดลงจนปัจจุบันมีมูลค่ากองเหลืออยู่เพียง 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
การลงทุนของ Pimco Income ใน Non-Agency Mortgages
กองทุนในกลุ่ม Multisector bond funds นั้นมักมีกลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลาย ทั้งลงทุนในพันธบัตรรัฐฐาลสหรัฐ ตราสารหนี้เอกชนในสหรัฐ หรือแม้กระทั่งกลุ่มตราสารหนี้ High-yield ทั้งนี้ กอง Pimco Income มีผลตอบแทนที่ดีโดดเด่นจากการเข้าลงทุนด้วยสัดส่วนที่สูงมากใน Non-agency mortgage-backed securities ในช่วง Financial crisis
การลงทุนใน Non-agency mortgage-backed securities นั้นมีความเสี่ยงที่มากกว่า Mortgage-backed securities ซึ่งในช่วงหลังเกิด Financial crisis ราคาของกลุ่ม Non-agency mortgage-backed securities นั้นปรับลดลงมากถึง 30-40 เซ็นต่อดอลลาร์ ซึ่งได้สะท้อนความเสี่ยงที่มีมากไปแล้ว ทำให้มูลค่าที่เหลืออยู่นั้นเป็นระดับที่น่าสนใจลงทุนสำหรับนักลงทุนที่เข้าใจในสิ่งที่ลงทุนมากพอ และหลังจากที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐได้เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาจากวิกฤตการเงิน กลุ่ม Mortgage-backed securities กลายเป็นกลุ่มหลักทรัพย์ที่ค่อนข้างคงที่มั่นคงและราคาอยู่ในระดับที่ต่ำมากและการฟื้นตัวของค่อนข้างเร็ว ทั้งนี้ Pimco Income แสดงให้เห็นถึงความผันผวนที่ต่ำเมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่ได้รับ โดยมีค่า Standard deviation ของกองเพียง 4.9 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยกองอื่นๆที่ 5.8
อนาคตของ Pimco Income จะเป็นอย่างไรต่อไป
ความท้าทายจากนี้ไปของ Pimco Income คือ Non-agency MBS ที่ออกขายตั้งแต่ปี 2007 นั้นมีจำนวนไม่มากพอให้ลงทุน ขณะที่ขนาดกองทุน Pimco Income มีการขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ด้วยขนาดของกองทุนที่มีขนาดใหญ่อย่าง Pimco Income ที่มีขนาดกองทุนกว่า 150,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังมีกองทุนอื่นอีกมูลค่าประมาณ 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐที่บริหารเหมือน Pimco Income ซึ่งอาจส่งผลให้ผลตอบแทนของกองทุนลดลงได้ในอนาคตจากการที่มีสินทรัพย์ขนาดใหญ่ทำให้ต้องลงทุนในแต่ละครั้งด้วยจำนวนที่มากหรือซื้อในระดับที่ถูกมากพอเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูง อย่างไรก็ดี Pimco เชื่อว่าพนักงานในองค์กรตอนนี้มีความสามารถและความเชี่ยวชาญที่หลากหลายในตลาดตราสารหนี้และน่าจะสามารถหาผลประโยชน์จากการลงทุนได้ในอนาคตต่อไป