Awards Winner – Allocation

บทสัมภาษณ์ Morningstar Awards for Investing Excellence 2024 กองทุนผสมยอดเยี่ยม - กองทุนเปิดกรุงไทยมั่งคั่ง (ชนิดสะสมมูลค่า)  

Morningstar 17/03/2567
Facebook Twitter LinkedIn

1

เรามาทำความรู้จักกองทุนผสมยอดเยี่ยม - กองทุนเปิดกรุงไทยมั่งคั่ง (ชนิดสะสมมูลค่า) ผ่านบทสัมภาษณ์กันเลยค่ะ

คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้กองทุนของคุณมีผลการดำเนินงานที่ดีในปี 2023

กองทุนเปิดกรุงไทยมั่งคั่ง (ชนิดสะสมมูลค่า) (KTMUNG-A) เป็นกองทุนรวมหน่วยลงทุนประเภท Fund of Funds เน้นการลงทุนแบบ Asset Allocation หรือจัดสรรเงินลงทุนในหลายสินทรัพย์ทั่วโลก กองทุนจะกระจายน้ำหนักลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ผ่านทางกองทุนต่างๆ ที่บริษัทฯ บริหารตามกลยุทธ์ที่เหมาะสมภายใต้ภาวะตลาดต่างๆ โดยกองทุนเน้นการกระจายน้ำหนักการลงทุนให้เหมาะสมกับวัฏจักรเศรษฐกิจระยะยาวในแต่ละช่วงเวลาและความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอ (Strategic Asset Allocation) ในขณะเดียวกัน ผู้จัดการกองทุนสามารถเพิ่มหรือลดน้ำหนักสินทรัพย์ได้ตามความเหมาะสม ให้สอดคล้องกับสภาวะของตลาดที่อาจจะมีความผันผวนสูงได้ในระยะสั้น (Tactical Asset Allocation) นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนยังมีการควบคุมค่าความผันผวน (Volatility) ของพอร์ตการลงทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมโดยการไม่เน้นการลงทุนในสินทรัพย์/ภูมิภาค/ประเทศใดจนมากเกินไป ซึ่งผู้จัดการกองทุนได้ใช้การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ติดตามและใช้ข้อมูลเชิงคุณภาพและปริมาณจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายเพื่อทำการประเมินการตัดสินใจ ช่วยสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กองทุนด้วย

คุณมีการจัดสัดส่วนการลงทุนอย่างไรในการรับมือกับการผันผวนของตลาดในปี 2023

บลจ.กรุงไทย มองว่าเศรษฐกิจโลกยังน่าจะมีการเติบโตได้ต่อเนื่องในปี 2023 และยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยดังที่ตลาดกังวล ทำให้ผู้จัดการกองทุนมีเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนมากขึ้น ขณะที่ทิศทางดอกเบี้ยยังเป็นขาขึ้นอยู่ ทำให้ผู้จัดการกองทุนมีการลดน้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้ โดยเฉพาะตราสารหนี้ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน โดยการฟื้นตัวจะเกิดขึ้นชัดเจนในภาคการบริการในช่วงต้นปี จากความต้องการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในยุโรป ต่อด้วยกระแสการพัฒนา AI ที่ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะในสหรัฐฯ รวมถึงบางประเทศก็มีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง เช่น อินเดีย หรือเวียดนาม เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดช่วยให้พอร์ตการลงทุนมีความทนทานต่อความผันผวนที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ การฟื้นตัวที่ล่าช้าของไทยทำให้การลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยส่งผลดีต่อพอร์ตการลงทุนโดยรวม อีกทั้งการคัดเลือกกองทุนที่มีความสามารถปรับตัวได้เร็วให้เป็นส่วนของ Tactical Allocation ยังส่งผลดีต่อพอร์ตการลงทุนรวมในภาวะตลาดที่ผันผวนด้วย

อะไรคือจุดแข็งของทีมบริหารการลงทุนของคุณที่ทำให้กองทุนนี้ประสบความสำเร็จ

บลจ. กรุงไทย มีการทำงานร่วมกันของหลายทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นทีมผู้จัดการกองทุนของสินทรัพย์แต่ละประเภท ทีมวิจัย ทีมบริหารความเสี่ยง และคณะกรรมการจัดการลงทุน และมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้จัดการกองทุนได้รับมุมมองที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจมหภาค ภาวะตลาดตราสารหนี้ ภาวะตลาดตราสารทุน ภาวะตลาดต่างประเทศ ภาวะตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ผลการดำเนินงานและความเสี่ยงของกองทุน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญประกอบในการจัดการลงทุนให้ประสบความสำเร็จ รวมถึงทีมผู้จัดการกองทุนก็มีการสื่อสารแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทีมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกลั่นกรองมุมมองออกมาเป็นพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ ทีมผู้จัดการกองทุนยังประกอบด้วยบุคคลากรที่มีประสบการณ์ มีความหลากหลายในเชิงความคิด และได้ศึกษารายละเอียดของหลักทรัพย์ที่เข้าลงทุนและติดตามข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงมีวินัยในการลงทุนตามแผนการลงทุน แต่ก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนเมื่อสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

คุณมีมุมมองเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจในปี 2024 อย่างไร และคิดว่าสภาพเศรษฐกิจปี 2024 จะส่งผลกระทบกับการตัดสินใจลงทุนของคุณอย่างไรบ้าง

บลจ.กรุงไทย มองว่าภาพรวมเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอลง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความกังวลต่อ “ภาวะถดถอย” ปะทุขึ้นเป็นครั้งคราว เงินเฟ้ออาจเร่งตัวขึ้นในระยะสั้นแต่ยังอยู่ในแนวโน้มขาลงในระยะยาว ขณะที่ธนาคารกลางหลักๆ ของโลกน่าจะมีการลดดอกเบี้ยลงแบบค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้ และจะไม่เร็วอย่างที่ตลาดคาดหวังไว้ในช่วงต้นปี อีกทั้ง ในปี 2024 ถือเป็นปีที่เลือกตั้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะมีผลต่อแนวนโยบายในอนาคต โดยเฉพาะการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ก็รุนแรงขึ้นในหลายจุดทั่วโลก ดังนั้น การลงทุนจึงอาจต้องเน้นการลงทุนที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งมีการเติบโตในระยะยาว เพื่อเป็น “ฉนวน” ป้องกันแรงกระแทกที่จะเกิดขึ้น จากดอกเบี้ยที่สูงในปัจจุบัน ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้มี “ดอกเบี้ยรับ” ที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน แม้เศรษฐกิจโลกจะเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่มูลค่าของตลาดหุ้นก็ถือว่าค่อนข้าง “แพง” และยังมีความเสี่ยงอยู่อีกหลายจุดที่ต้องคอยติดตาม พอร์ตการลงทุนจึงควรกลับมาอยู่ในระดับ “สมดุล” ระหว่างสินทรัพย์หลัก ตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในระยะยาว ส่วนพอร์ตการลงทุนระยะปานกลาง-สั้น (Satellite) อาจต้องมีการขายทำกำไรออกมาบ้าง เมื่อราคาถึงเป้าหมาย เพื่อช่วยรักษาผลตอบแทนที่ได้รับ เนื่องจากตลาดการเงินอาจจะไม่ได้เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียว และน่าจะมีความผันผวนมากขึ้นในปีนี้

คุณมีคำแนะนำต่อนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนผสมอย่างไรบ้าง

ในช่วงวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นที่ผ่านมา ตลาดหุ้นและตลาดบอนด์มักจะผันผวนไปในทิศทางเดียวกัน ส่งผลให้พอร์ตการลงทุนมีความผันผวนมากขึ้น การถือเงินสดจึงเป็นทางเลือกในการลดความเสี่ยงของพอร์ต อย่างไรก็ตาม เราน่าจะผ่านพ้นวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นไปแล้ว ความสัมพันธ์ของตราสารหนี้และตราสารทุนจะกลับเข้าสู่ภาวะปรกติ คือ สินทรัพย์หลักสองประเภทมักจะผันผวนไปในทิศทางตรงกันข้ามกัน ความจำเป็นการถือเงินสดจึงลดลง ทำให้การลงทุนในกองทุนผสมที่มีกระจายความเสี่ยงที่ดีจะสามารถช่วยลดความผันผวนได้ อีกทั้ง เรายังมองภาพการเติบโตของเศรษฐกิจต่อเนื่อง แม้ว่ามูลค่าของบางตลาดอาจถือว่าค่อนข้าง “แพง” และอาจสร้างความผันผวนให้เกิดขึ้นได้ในบางช่วง ทำให้กองทุนผสมมีความเหมาะสมกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยง ไม่มีเวลาติดตามการลงทุน ไม่ต้องการปรับพอร์ตการลงทุนบ่อยๆ และต้องการได้รับผลตอบแทนที่สอดคล้องกับผลตอบแทนและความเสี่ยงที่รับได้ในระยะยาว

 

 

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar  Morningstar