ในปีที่แล้วเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่เงินลงทุนไหลออกจากกองทุนประเภทเพื่อความยั่งยืนหรือ Sustainable funds ในสหรัฐ โดยเฉพาะในไตรมาสสุดท้ายของปีที่มีเงินไหลออกสุทธิ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ปีที่แล้วรวมมีเงินไหลออกรวม 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ผลตอบแทนของกองทุน ESG
ในปี 2023 ผลตอบแทนโดยรวมของกอง ESG ออกมาต่ำกว่ากองทุนประเภทอื่นๆ โดยSustainable large-blend equity fund ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 20.8% ขณะที่ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมทั้งหมดทั้งที่เป็นกองทุน ESG และกองทั่วไปอยู่ที่ 23.9% และผลตอบแทนของ Morningstar US Large-Mid Cap Index อยู่ที่ 26.9% โดยมีปัจจัยกดดันทั้งจากภาพเศรษฐกิจ ภาวะอัตราดอกเบี้ยที่สูง และปัญหา Supply chain disruption นอกจากนี้ยังมีความกังวลต่อปัญหา Greenwashing และประเด็นทางการเมืองต่อ ESG ในสหรัฐ ยิ่งทำให้ความต้องการลงทุนในกองทุนยั่งยืนลดลงไปด้วย
U.S. Flows: Sustainable Funds vs. All Funds
ในขณะที่ Sustainable fund มีเงินไหลออกในปีที่แล้วประมาณ 1.7% ของมูลค่าสินทรัพย์ และไหลออกต่อเนื่องรวม 5 ไตรมาส แต่สถานะโดยรวมของกองทุนแบบระยะยาวในสหรัฐรวมไปถึง ETFs กลับมีเงินไหลเข้ารวมสุทธิกว่า 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 0.2% ของมูลค่าสินทรัพย์ และทำให้มีมูลค่ารวมในสินทรัพย์ของอุตสาหกรรมกองทุนอยู่ที่ 26 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
iShares fund
ในปีที่แล้วเม็ดเงินไหลออกสุทธิจาก iShares ESG Aware MSCI USA ETF กว่า 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยกว่า 2 ใน 3 ของเม็ดเงินไหลออกในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 ซึ่งสอดคล้องกันกับที่ในช่วงดังกล่าวที่ BlackRock ได้ทำการเปลี่ยนกลยุทธ์โมเดลการลงทุนจาก iShares ESG Aware MSCI USA ETF เป็น iShares MSCI USA Quality Factor ETF แทนนั่นเอง ซึ่งหากไม่รวมผลกระทบของเหตุการณ์นี้กอง Sustainable fund น่าจะยังมีเงินไหลเข้ากว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้ว
U.S. Sustainable Fund Flows
สำหรับรายไตรมาสที่ผ่านมาพบว่าเม็ดเงินไหลออกจากกอง Parnassus Core Equity และ Parnassus Mid Cap มากที่สุด ทั้งนี้ที่ผ่านมาในช่วง 2 ปี Parnassus Core Equity นับว่าติดอันดับ 1 ใน 10 ที่เป็นกองที่มีเม็ดเงินไหลออกค่อนข้างมากหรือกว่า 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ดี Parnassus Core Equity ก็ยังเป็นกอง ESG ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐหรือมีมูลค่าสินทรัพย์กว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าสินทรัพย์กองทุน ESG ยังคงเพิ่มขึ้นตามมูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้น
U.S. Sustainable Fund Assets
ในปี 2023 มูลค่าสินทรัพย์ในกอง ESG ยังคงเพิ่มขึ้นเป็น 323,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 18% จากระดับต่ำสุดในไตรมาส 3 ปี 2022 แต่ลดลง 12% จากช่วงที่กอง ESG เคยมีมูลค่าสูงสุดในปี 2021ทั้งนี้ โดยเปรียบเทียบมูลค่ากองทุนโดยรวมในสหรัฐก็ปรับลดลงจากช่วงที่มีมูลค่าสูงสุดในปี 2021 ลงมาประมาณ 5%ในช่วงสิ้นปี 2023 เช่นกัน
กองทุนยั่งยืนมีจำนวนลดลงต่อเนื่อง
ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมามีกองทุน ESG เปิดใหม่ 7 กองทุน และมีกองทุนเดิมที่เพิ่มเป็นกอง ESG อีก 1 กองทุน ขณะเดียวกันมีกอง ESG ปิดตัวลง 16 กองทุนในไตรมาสดังกล่าวเช่นกัน ทั้งนี้กองทุนเปิดใหม่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ได้แก่ กอง Vontobel Global Environmental Change ขนาดกองทุนอยู่ที่ 11.5 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเน้นลงทุนในบริษัทอย่างเช่น Clean energy infrastructure, Clean water เป็นต้น
U.S. Sustainable Funds: New Arrivals and Departures
ผลตอบแทนกอง ESG ในปี 2023
ผลตอบแทนของกอง ESG ในปี 2023 ดีขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยกลุ่มตราสารหนี้มีผลตอบแทนที่ดีพอๆกับกองทั่วไป ส่วนกองตราสารทุนทำได้ดีน้อยกว่ากองปกติทั่วไป ซึ่งหากเปรียบเทียบความเสี่ยงและผลตอบแทนที่ได้รับพบว่าประมาณ 53% ของจำนวนกองทุน ESG ให้ผลตอบแทนอยู่ใน 2 อันดับสุดท้ายของ Quartile
Sustainable Funds' 2023 Return Rank by Morningstar Category Quartile
กองทุนตราสารทุนให้ผลตอบแทนได้น้อยที่สุดในปีที่ผ่านมา โดย 32% ของกองทุนตราสารทุนแบบยั่งยืนมีผลตอบแทนอยู่ใน Quartile สุดท้าย โดยกลุ่มกองทุน ESG ชนิด Large-blend equity funds มีค่ากลางของผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 20.8% น้อยกว่าผลตอบแทนรวมของกองทั่วไป (ทั้งกองปกติและกอง ESG) ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 23.9% และน้อยกว่าผลตอบแทนของ Morningstar US Large-Mid Cap Index ปีที่แล้วที่ 26.9%