หลังจากรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ออกมาชะลอตัวจนทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ Fed จะหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรืออาจปรับขึ้นอีกเพียงแค่ 1 ครั้งจากนี้ไป รวมไปถึงการคาดการณ์ว่า Fed จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า แต่อย่างไรก็ดี Bond yields ยังคงปรับสูงขึ้นอย่างมาก โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2007 ไปอยู่ที่ระดับ 4.3% และส่งผลให้ผลตอบแทนหรือระดับราคาของตราสารหนี้ปรับลดลง ทั้งนี้ Morningstar US Core Bond Index ปรับลดลง 2.3% ส่วน Morningstar US 10+ Yr Treasury Bond Index ลดลง 5.4% ทั้งนี้ทำไม่จึงเกิดแรงขายในตลาดบอนด์จนทำให้ราคาปรับลดลงและ Bond yields ปรับเพิ่มขึ้นได้อย่างมาก
แนวโน้มการออกจำหน่ายพันธบัตรใหม่จำนวนมาก
ทั้งนี้ราคาตราสารหนี้ได้ปรับลดลงอย่างมากหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐได้เปิดเผยว่ามีแผนที่จะระดมทุนผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาลจำนวนกว่า 1.007 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐจำหน่ายในช่วงไตรมาส 3 นี้ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ Fitch ได้ปรับลด Credit Rating ระยะยาวของสหรัฐฯ จากระดับ AAA เหลือ AA+ จากแนวโน้มภาวะการคลังที่อ่อนแอลงในอนาคต
นโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ)
ในอดีตที่ผ่านมาเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นถูกกำหนดให้อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องมาเป็นเวลานานเพื่อเป็นการกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลให้นักลงทุนชาวญี่ปุ่นต้องหันออกมาลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศมากขึ้นเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในประเทศ แต่ด้วยล่าสุดจากการที่ BoJ ได้ตัดสินใจขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นขึ้นจากเดิมที่ 0.5% เป็น 1.0% ทำให้คาดการณ์ว่านักลงทุนชาวญี่ปุ่นจะเริ่มกลับไปลงทุนในประเทศตัวเองมากขึ้นแทนการลงทุนในพันธบัตรสหรัฐซึ่งส่งผลให้ Bond yield ทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้นในระยะยาว
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง
ด้วยภาพเศรษฐกิจสหรัฐที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคภาคเอกชนและตัวเลขการจ้างที่ออกมาดี แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยและปัญหาธนาคารในสหรัฐก็ตาม ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ไปถึงแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในอนาคตว่าอาจจะไม่ปรับลดลงได้ง่ายเนื่องจากเศรษฐกิจที่โตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
ส่วนชดเชยอัตราเงินเฟ้อที่อาจเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
แม้ว่าเป็นที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อได้ปรับลดลงและการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed จะจบลงแล้วก็ตาม แต่อัตราเงินเฟ้อก็ยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายและมีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาสูงขึ้นได้อีกในอนาคต ซึ่งเห็นได้จากตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในอนาคตของนักลงทุนที่ยังคาดว่าเงินเฟ้ออาจปรับสูงขึ้นต่อเนื่องและแตะระดับสูงสุดอีกครั้ง ซึ่งส่งผลให้ Bond yield ปรับเพิ่มสูงขึ้นเพื่อเป็นการชดเชยอัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต