ความคาดหวังต่อการประชุมเฟด

แม้ดูเหมือนว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือ Fed จะสามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้แล้วแต่นักลงทุนควรให้ความสำคัญต่อถ้อยแถลงของ Fed ในการประชุมที่จะถึงนี้ 

Morningstar 25/07/2566
Facebook Twitter LinkedIn

แม้ดูเหมือนว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือ Fed จะสามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้แล้วแต่นักลงทุนควรให้ความสำคัญต่อถ้อยแถลงของ Fed ในการประชุมที่จะถึงนี้ และแม้เป็นที่คาดกันว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 25 bps ในการประชุมเดือนนี้ แต่ก็มีการคาดการณ์ว่า Fed จะยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งก่อนสิ้นปีนี้ ส่วนเรื่องการพูดถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยน่าจะยังไม่เห็นในการประชุมรอบนี้ เนื่องจากคาดว่า Fed ยังคงไม่อยากส่งสัญญาณให้นักลงทุนในตลาดคาดการณ์ไปล่วงหน้าถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอีกไม่กี่เดือนจากนี้และแม้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้จะสวนทางกับตัวเลขการจ้างงานและเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่โดยรวมก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะขึ้นดอกเบี้ยซึ่งนักลงทุนก็คาดว่าจะมีโอกาสมากถึง 99.8%

 1

Matt Brill (Head of North America investment-grade credit ,Invesco)คาดว่าหลังจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ Fed น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในรอบการประชุมเดือนกันยายนก่อน เพื่อรอดูท่าทีของเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนก่อนที่จะประชุมอีกครั้งช่วงสิ้นเดือนตุลาคม ซึ่ง Matt Brill คิดว่าการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกรกฏาคมนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแต่เชื่อว่าจะยังไม่มีการส่งสัญญาณดังกล่าวต่อนักลงทุนเนื่องจากยังคงต้องรอดูท่าทีของเงินเฟ้อว่าจะชะลอตัวได้จริง Fed จึงจำเป็นที่จะยังต้องคงนโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่ออีกระยะ ซึ่งอาจส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของนักลงทุนและภาคธุรกิจยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดีความท้าทายของ Fed นอกจากทำให้ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับสูงแล้ว ยังคงมีอัตราดอกเบี้ยอื่นๆในตลาดการเงิน เช่น ตลาดพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาด ซึ่งถ้านักลงทุนเชื่อว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยลงในอนาคต ผลตอบแทนหรือ Yield ในตลาดก็จะปรับลดลงด้วย และส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยอื่นๆให้ปรับลดลงตาม เช่น Mortgage rates

และนอกจากความพยายามของ Fed ที่จะรักษาเสถียรภาพทางการเงินและเงินเฟ้อแล้ว สิ่งที่ Fed ยังคงต้องให้ความสำคัญคือผลของนโยบายที่อาจมีมากไปจนทำให้เศรษฐกิจถดถอยได้ โดยจากตัวชี้วัดของ Pimco ผ่าน Pimco Financial Conditions Index (ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นแสดงถึงความเข้มงวดทางการเงินที่มากขึ้น) บ่งชี้ให้เห็นว่านโยบายเข้มงวดทางการเงินที่ผ่านมาของ Fed นั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและอยู่ในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ช่วง Financial crisis 2008

1

โดย Pimco เห็นว่าการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ด้วยตลาดแรงงานที่ยังตึงตัวและเงินเฟ้อที่ยังอยู่สูงทำให้ Fed ยังต้องคงนโยบายตึงตัวเพื่อชะลอเศรษฐกิจไม่ให้โตร้อนแรงจนเกินไป และหากนักลงทุนในตลาดคาดการณ์ไปล่วงหน้าถึงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินก็อาจทำให้เป้าหมายเงินเฟ้อไม่บรรลุตามกำหนดได้ ทำให้ Fed ยังคงนโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อไป

สรุปภาพตลาดการเงินในสัปดาห์ที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงดังนี้ Morningstar US Market Index +0.72%, อุตสาหกรรมที่ปรับตัวขึ้นดีได้แก่ พลังงานและภาคการเงิน ส่วนอุตสาหกรรมที่ปรับลดลงได้แก่ สื่อสารและ Consumer cyclical ด้านตลาดตราสารหนี้พบว่า ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นจาก 3.82% เป็น 3.85% ส่วนราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น $77.07

 

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar  Morningstar