การที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 33 ปีนั้นอาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเกิดจากการที่นักลงทุนอย่าง Warren Buffett ได้เข้าไปลงทุนเนื่องจากเล็งเห็นถึงโอกาสการลงทุนที่เกิดขึ้น หรืออาจเพราะความคาดหวังต่อนโยบายการเงินของผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นคนใหม่อย่าง Kazuo Ueda ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสเงินลงทุนไหลเข้าตลาดหุ้นในประเทศญี่ปุ่นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าจะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าญี่ปุ่นนั้นสามารถที่จะหลุดออกจากภาวะ ‘Lost decades’ ได้หรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมามีเงินไหลเข้าลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นกลุ่ม Large-cap มากถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเม็ดเงินที่ไหลเข้านั้นนับว่ามากเป็นอันดับที่ 2 รองจากเม็ดเงินที่ไหลเข้าในหุ้นกลุ่ม Global large-cap
ความน่าสนใจในตลาดหุ้นญี่ปุ่น
Daniel Hurley ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดหุ้นญี่ปุ่นและตลาดเกิดใหม่ของ T. Rowe Price เชื่อว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้ฟื้นจากภาวะโควิดเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งการปฏิรูปเรื่อง Corporate governance ในช่วงตั้งแต่ยุค Abenomics ในปี 2015 ยิ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาให้ความสนใจมากขึ้นเนื่องจากเชื่อว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ รวมทั้งยังมีบริษัทที่ดีที่คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของกำไรในอนาคตได้อีกมากเช่นกัน และเชื่อว่านี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของกระแสเงินที่ให้ความสนใจลงทุนในตลาดญี่ปุ่น ทั้งนี้ Tokyo Stock Exchange ปัจจุบันยังซื้อขายที่ Price to Book Value ต่ำกว่า 1 เท่า โดยปัจจัยที่อยากให้นักลงทุนติดตามคือการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือ BoJ ในช่วงอีก 12 เดือนต่อจากนี้ว่าจะเข้มงวดทางการเงินมากขึ้นและรวดเร็วเกินไปหรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินเยนและการส่งออกของประเทศได้
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น การลงทุนผ่านกองทุน ETF ถือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถทำได้ง่ายและเข้าถึงได้อย่างเฉพาะเจาะจง โดยมอร์นิ่งสตาร์ได้เลือก 5 ETFs ที่เน้นลงทุนในญี่ปุ่นและได้รับเรตติ้งระดับเหรียญทอง และเหรียญเงิน ซึ่งจดทะเบียนใน US ดังนี้
iShares JPX-Nikkei 400 ETF JPXN
ได้รับเรตติ้งระดับเหรียญทอง (Gold Medalist) ทีมผู้จัดการกองทุนบริหารแบบ Passive ทำให้ได้รับเรตติ้งระดับ Above Average สำหรับหัวข้อด้านบุคคลากรและทีมงาน (People Pillar)
จัดตั้งขึ้นในปี 2001 เน้นลงทุนในบริษัทที่ให้ Yield ที่สูงและมีความผันผวนต่ำ ซึ่งทำให้ที่ผ่านมาในช่วงที่ตลาดหุ้นไม่ดีกองนี้มักจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดโดยเฉลี่ย แต่ในช่วงที่ตลาดเป็นขาขึ้นกองทุนนี้จะให้ผลตอบแทนน้อยกว่าตลาดเช่นกัน โดยปัจจุบันการลงทุนในหลักทรัพย์มีทั้งสิ้น 396 หลักทรัพย์และเน้นไปที่กลุ่ม Healthcare ขณะที่กลุ่ม Consumer cyclical และ Financial service ยังให้น้ำหนักการลงทุนไม่สูงมาก
iShares MSCI Japan Value ETF EWJV
เป็นอีกกองของ iShares ที่ได้รับเรตติ้งระดับเหรียญทอง โดยได้คะแนน Above Average ทั้งด้านกระบวนการลงทุน และ ด้านบุคคลากรและทีมงาน (Process and People Pillar rating)
เน้นลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่มีอัตรากำไรไม่สูงมาก และ Financial leverage สูง โดยมีการลงทุนในหลักทรัพย์ประมาณ 146 หลักทรัพย์ และเน้นกลุ่มธุรกิจการเงินและอุตสาหกรรม ซึ่งสัดส่วนหลักของ Portfolio เกือบ 35% อยู่ในกลุ่มธนาคารและประกัน สำหรับตัวอย่างบริษัทที่ลงทุนเช่น Mitsuibishi UFJ Financial Group, Sumitomo Mitsui Financial Group, Mitsubishi Corp และ Hitachi Ltd
JPMorgan BetaBuilders Japan ETF BBJP
ได้รับเรตติ้งระดับเหรียญทอง โดยมีทีมลงทุนที่มีประสบการณ์อย่างมาก ทำให้ได้รับเรตติ้งระดับสูงในหัวข้อ People Pillar.
สำหรับการลงทุนของ JPMorgan ETF จะให้น้ำหนักการลงทุนส่วนมากในกลุ่ม Healthcare และ Consumer cyclical ขณะที่กลุ่ม Financial services และ Consumer defensive มีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ยังเน้นลงทุนในหุ้นที่มีความผันผวนต่ำ ตัวอย่างหุ้นที่ลงทุนได้แก่ Toyota Motor, Sony Group, Keyence
สำหรับกองทุนรวมไทย นักลงทุนสามารถลงทุนหุ้นญี่ปุ่นผ่านกองทุนรวมไทย ซึ่งมีให้เลือกกว่า 48 กองทุน โดยปัจจุบัน มีผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 18%
นักลงทุนสามารถหาข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุนได้ที่ https://bit.ly/3vd7TYm