กองทุนรวมต่างประเทศ (ไม่รวม Term Fund) มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 9.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4% จากไตรมาสก่อนหน้า มีเงินไหลเข้าสุทธิ 2.7 หมื่นล้านบาท กองทุนตราสารหนี้เป็นกลุ่มที่มีเงินไหลเข้าสูงสุด 1.4 หมื่นล้านบาท ตามมาด้วยที่กองทุนตราสารทุนที่มูลค่าไหลเข้าสุทธิต่ำกว่าเล็กน้อย โดยรวมกองทุนกลุ่มหลักมีการเติบโตได้ดีทั้งจากเงินไหลเข้าและผลตอบแทนที่ฟื้นตัว
กองทุนหุ้นทั่วโลกมูลค่าทรัพย์สินเติบโต 7.3%
กองทุนหุ้นทั่วโลกมีมูลค่าทรัพย์สินเติบโต 7.3% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเกิดจากทั้งเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิ 2.7 พันล้านบาทและผลตอบแทนโดยเฉลี่ย 6.1% มูลค่าทรัพย์สินขึ้นมาที่ 1.8 แสนล้านบาท กองทุน Eastspring Global Dividend Equity เป็นกองทุนที่มีเงินไหลเข้าสูงสุดของกลุ่มด้วยมูลค่าราว 1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นกองทุนเปิดใหม่ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา
เงินไหลเข้ากองทุนหุ้นจีนระดับหมื่นล้านบาท
กองทุนหุ้นจีนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 1.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีเงินไหลเข้าสุทธิที่มูลค่าระดับหมื่นล้านบาทอีกครั้งหลังจากที่เม็ดเงินไหลเข้าแผ่วลงในช่วงปีที่แล้ว นำโดยกองทุน SCB China A Shares Active Equity(Acc) ที่ 1.3 พันล้านบาท ในภาพรวมมูลค่าเงินไหลเข้าสุทธิไปที่กองทุนหุ้น A Shares และกองทุนที่ลงทุนทั้ง A Shares และ H Shares ที่ระดับ 4-5 พันล้านบาท
กองทุน Global bond กลับมามีเงินไหลเข้าสุทธิในรอบเกือบ 2 ปี
หลังจากที่กองทุน Global bond มีเงินไหลออกสุทธิต่อเนื่องราว 2 ปี ในไตรมาสที่ผ่านมากลับเป็นกลุ่มที่มีเงินไหลเข้าสูงสุดของกลุ่มการลงทุนต่างประเทศที่ไม่รวม term fund ที่มูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท ทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหรือ 27.2% จากไตรมาสก่อนไปอยู่ที่ 6.4 หมื่นล้านบาท
เงินไหลออกจากกองทุนหุ้นญี่ปุ่นมากที่สุด
กองทุนหุ้นญี่ปุ่นมีเงินไหลออกสุทธิต่อเนื่องอีกหนึ่งไตรมาส โดยในไตรมาสแรกนี้เป็นกลุ่มที่มีเงินไหลออกสุทธิสูงสุดในกลุ่มการลงทุนต่างประเทศที่มูลค่า 2.2 พันล้านบาท คิดเป็น organic growth -12% มูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้กองทุนหุ้นญี่ปุ่นเป็นเพียงกองทุนกลุ่มเดียวที่ยังมีผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกได้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา