กองทุน SSF และกองทุน SSFX – เงินไหลเข้าสุทธิทั้งปีต่ำกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย
กองทุนเพื่อการออมมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเกือบ 5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.1% จากสิ้นปี 2021 และ 32.7% จากไตรมาสก่อน ในไตรมาสสุดท้ายมีเงินไหลเข้ามากกว่าทุกไตรมาสอย่างมีนัยสำคัญเช่นเดิมที่มูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท เป็นมูลค่าที่ต่ำกว่าปีที่แล้วราว 6 ร้อยล้านบาท รวมทั้งปีเป็นเงินไหลเข้าสุทธิราว 1.5 หมื่นล้าน
กลุ่ม Equity Large-Cap มีมูลค่าการลงทุนแบบกองทุนเพื่อการออมสูงสุดรวม 1.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่แล้ว 28.3% และ 25.8% จากไตรมาสก่อนหน้า ในช่วงท้ายปีมีเงินไหลเข้าสุทธิมากที่สุดรวม 2.5 พันล้านบาท รวมทั้งปี เงินไหลเข้าสูงสุด 3.4 พันล้านบาท นำโดยกองทุน SCB Dividend Stock 70/30 L/T Eq (SSF) มีเงินไหลเข้าสูงสุดด้วยมูลค่ากว่า 6 ร้อยล้านบาท มูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนเพิ่มขึ้นไปที่เกือบ 2 พันล้านบาท
กลุ่ม Global Equity มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิหดตัวลงเล็กน้อย และมีเงินไหลเข้าสุทธิ 1.6 พันล้านบาทในไตรมาสสุดท้าย รวมทั้งปีเป็นมูลค่า 2.7 พันล้านบาท หรือมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 กองทุน K Positive Change Equity-SSF เป็นกองทุนยอดนิยมต่อเนื่อง ด้วยมูลค่าเงินไหลเข้าสูงสุดกว่า 8 ร้อยล้านบาท และมูลค่าทรัพย์สินสูงสุด 4 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนราว 41% ของกลุ่มกองทุนหุ้นทั่วโลกเพื่อการออม
กองทุนหุ้นเวียดนามได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนค่อนข้างสูงในไตรมาสสุดท้าย โดยมีเงินไหลเข้าสุทธิมูลค่ากว่า 9 ร้อยล้านบาท ทำให้รวมทั้งปีมีเงินไหลเข้าสุทธิแตะ 1 พันล้านบาท อันเกิดจากการเปิดขายกองทุนจากบลจ.ไทยพาณิชย์ บลจ.กสิกรไทย บลจ.บัวหลวง และบลจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ในไตรมาสสุดท้าย
กองทุน LTF – เงินไหลออกสุทธิทั้งปี 3.3 หมื่นล้านบาท
กองทุน LTF มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 3.3 แสนล้านบาท หดตัวลง 9% จากสิ้นปี 2021 โดยในไตรมาสสุดท้ายมีเงินไหลออกสุทธิ 7.1 พันล้านบาท รวมทั้งปีเป็นเงินไหลออกสุทธิราว 3.3 หมื่นล้านบาท
กองทุน RMF – มูลค่าทรัพย์สินสุทธิขึ้นสู่ระดับ 4 แสนล้านบาท
กองทุน RMF มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 4.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% จากสิ้นปี 2021 หรือ 11.5% จากไตรมาสก่อนหน้า ในไตรมาสสุดท้ายยังคงมีเงินไหลเข้าสุทธิในระดับสูงถึง 3.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเล็กน้อย รวมเงินไหลเข้าสุทธิสะสมทั้งปีมูลค่า 3.4 หมื่นล้านบาท
เงินไหลเข้ากองทุนหุ้นในประเทศและต่างประเทศ
จากมูลค่าเงินไหลเข้าไตรมาสสุดท้าย 3.1 หมื่นล้านบาท เป็นเงินไหลเข้าสุทธิกองทุนตราสารทุน 1.8 หมื่นล้านบาทจากหลายกลุ่มกองทุนไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในประเทศหรือต่างประเทศ โดยสูงสุดจากกลุ่มหุ้นไทยขนาดใหญ่ที่พลิกกลับมาเป็นเงินไหลเข้าที่ระดับ 4 พันล้านบาท ตามมาด้วยกองทุนหุ้นจีน 3.2 พันล้านบาท และกองทุนหุ้นเวียดนาม 2.6 พันล้านบาท
ขณะที่กองทุนตราสารหนี้มีเงินไหลเข้าสุทธิในไตรมาสสุดท้าย 1.0 หมื่นล้านบาท นำโดยกลุ่มสารหนี้ระยะกลาง-ยาวที่ 3.9 พันล้านบาท จากที่เคยมีเงินไหลออกสุทธิช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นและกองทุนตราสารตลาดเงินยังคงมีเงินไหลเข้าสุทธิต่อเนื่องตลอดทั้งปี