สรุปภาพกองทุนยั่งยืนทั่วโลกไตรมาส 1-22

ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ กองทุนยั่งยืนทั่วโลกมีเงินทุนไหลเข้าลงทุนสุทธิ 97 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 35.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และนับเป็นการไหลเข้าของเงินทุนที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา 

Morningstar 10/05/2565
Facebook Twitter LinkedIn

ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ กองทุนยั่งยืนทั่วโลก หรือ  Global Sustainable Funds มีเงินทุนไหลเข้าลงทุนสุทธิ 97 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 35.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และนับเป็นการไหลเข้าของเงินทุนที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจทั้งประเด็นเงินเฟ้อและการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย รวมถึงสงครามในยูเครน อย่างไรก็ดี ภาพรวมกอง Global sustainable funds ก็ยังดีกว่าตลาดโดยรวม เห็นได้จากในไตรมาสแรกที่ Fund flows ของกองทุนทั่วโลกลดลงถึง 73% จากไตรมาสก่อนหน้า เหลือเพียง 138 พันล้านเหรียญสหรัฐ

1 

สำหรับเงินทุนที่ไหลเข้าลดลงในกองทุนยั่งยืนทั่วโลกนั้นเป็นลักษณะเดียวกันทั่วทุกภูมิภาค (ยกเว้นในแคนาดาและภูมิภาคเอเชียที่เม็ดเงินยังโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 31% และ 21% ตามลำดับ) โดยเฉพาะกองทุนในญี่ปุ่นที่มีเงินไหลเข้าลดลงมากที่สุดถึง 87% หรือเหลือเพียง 500 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น นอกจากนี้ในภูมิภาคยุโรปซึ่งนับได้ว่าเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของกองประเภทนี้เงินทุนไหลเข้าลดลง 40% ในช่วงไตรมาสแรกเช่นกัน ขณะที่ในสหรัฐเงินทุนไหลเข้าลดลง 26.4%

มูลค่าสินทรัพย์กองทุนยั่งยืนปรับลดลง  4% ในไตรมาสแรก

มูลค่าสินทรัพย์โดยรวมของกองทุนยั่งยืนปรับลดลงในไตรมาสนี้ โดยลดลง 4% เหลือ 2.77 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปี 2020 ที่มูลค่ากองปรับลดลง ทั้งนี้ ยุโรปยังครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในกองประภทนี้ที่สัดส่วน 82% ตามมาด้วยสหรัฐที่สัดส่วน 12%

2

การออกกองทุนใหม่

สำหรับการออกกองใหม่ๆ โดยรวมก็ลดลงในไตรมาสที่ผ่านมาเช่นกัน โดยมีกองออกใหม่ 227 กอง ลดลงจากไตรมาส 4 ของปีที่แล้วที่มีกองออกใหม่ 316 กองทุน ซึ่งเป็นปกติของไตรมาสแรกที่การออกกองใหม่จะต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้า และเกือบสองในสามของกองทุนที่เปิดใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป โดยมีจำนวนกองเปิดใหม่ 145 กองทุนในยุโรป ขณะที่ในเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) สหรัฐ และญี่ปุ่น มีกองประเภทนี้เปิดใหม่ 27, 24 และ 5 กองทุนตามลำดับ

3 

ยุโรป

ในช่วงไตรมาสแรกเงินลงทุนไหลเข้ากอง Sustainable funds เหลือเพียง 78 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงเกือบ 40% จากไตรมาสก่อนหน้า  และเป็นการปรับลดลงมากที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา หลังจากไตรมาส 1 ปี 2020 ที่ปรับลงมากที่สุดถึง 48% จาก COVID-19 ทั้งนี้ เกิดจากความกังวลของนักลงทุนต่อสถานการณ์ในรัสเซียและยูเครน รวมทั้งความกังวลต่อสถานการณ์เงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น

4

อย่างไรก็ดี กองทุน Sustainable funds ยังคงดีกว่ากองชนิดอื่นๆ เนื่องจากในช่วงไตรมาสแรกนี้กองทุนประเภทอื่นๆมีเงินไหลออกสุทธิ 21 พันล้านเหรียญสหรัฐ

56 

สำหรับเงินทุนที่ไหลเข้าลดลง กระจายอยู่ในทุกประเภท โดยเฉพาะกอง Fixed-income ที่เงินทุนไหลเข้าลดลงถึง 60% เหลือเพียง 11.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสนี้ อันเนื่องมาจากความกังวลต่อภาวะดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามยังดีกว่ากองทั่วๆไปที่ไม่ใช่ Sustainable funds (Conventional – Fixed income) ที่เงินทุนไหลออกเกือบ 44 พันล้านเหรียญสหรัฐ

กองทุนตราสารทุนยังเป็นที่นิยมของนักลงทุน มีเงินทุนไหลเข้า 48.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 74.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ก็ยังมากกว่ากองหุ้นทั่วไปที่มีเงินไหลเข้าเพียง 5.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับ Sustainable allocation funds มีเงินไหลเข้า 17.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปรับลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่กลุ่ม Commodity related products ในกลุ่ม Sustainable funds ยังได้รับความนิยมน้อย มีเงินไหลเข้าเพียง 96 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับกอง Commodity ทั่วไปที่เงินไหลเข้า 7.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อ Hedge ต่อแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในทองคำ

7 

และจากการส่งเสริมเรื่องการลงทุนอย่างยั่งยืนและการเปิดเผยข้อมูลในสหภาพยุโรป ทำให้ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในสินทรัพย์กองทุนกลุ่ม Sustainable funds ยกเว้นเพียงไตรมาสแรกที่ผ่านมาที่มูลค่าสินทรัพย์ของกอง Sustainable funds ลดลง 4% จากไตรมาสก่อนหน้า เหลือ 2.28 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังดีกว่าภาพรวมของกองทุนอื่นๆที่มูลค่าสินทรัพย์ลดลงกว่า 7% แสดงให้เห็นว่าภายใต้ความผันผวนของตลาดนั้นการลงทุนในกลุ่ม Sustainable funds ก็ยังมีความยืดหยุ่นที่ดีกว่าโดยเปรียบเทียบ

ปัจจุบัน Sustainable funds มีส่วนแบ่งตลาดในสินทรัพย์กองทุนทั้งหมดในยุโรปกว่า 17% และคาดว่ายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากความต้องการของนักลงทุนและแนวโน้มการออกกองประเภทนี้ที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

8

Facebook Twitter LinkedIn

About Author

Morningstar