เกิดอะไรขึ้นกับ Netflix?

ผู้ให้บริการ Video streaming รายใหญ่อย่าง Netflix ได้รายงานว่าจำนวนผู้ใช้งานหรือสมาชิก (subscribers) ลดง 2 แสนรายในการรายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ต่างกับที่ทางบริษัทคาดการณ์ไว้อย่างมากที่จะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านราย ซึ่งเป็นการลดลงของจำนวนผู้ใช้งานครั้งแรกตั้งแต่ปี 2011 นอกจากนี้ทาง Netflix ยังคาดว่ายอด subscribers จะลดลงอีก 2 ล้านรายในไตรมาสนี้

ราคาหุ้น NFLX ลง 62.95% แล้วในปีนี้

หลังการประกาศตัวเลขไตรมาสแรกราคาหุ้น Netflix (NFLX) ได้ลดลงอย่างรวดเร็วราว 36% ไปที่ระดับต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ ทำให้ราคาได้ลงไปแล้วกว่า -62% ตั้งแต่ต้นปี และ -59% ในปีที่แล้ว เทียบกับดัชนี NASDAQ ที่ปรับตัวลง -12.95% ในปีนี้และ -2.12% ในปีที่แล้ว

ด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Reed Hasting คาดแนวโน้มยังคงไม่ต่างจากปัจจุบัน ซึ่งโดยปกติจำนวนสมาชิกในไตรมาสที่ 2 จะเพิ่มได้น้อยกว่าไตรมาสแรก รวมถึงผลกระทบจากการปรับค่าสมาชิกขึ้น ทั้งนี้ยังคาดว่ารายได้ในไตรมาสที่ 2 นี้จะเติบโตจากไตรมาส 2 ของปี 2021 ราว 10% จากการประมาณรายได้ต่อสมาชิกที่เพิ่มขึ้นไม่เกิน 10% และยังคงคาด operating margin 19%-20% สำหรับรอบปี 2022

ตัวเลือกอื่นที่น่าสนใจกว่า

นักวิเคราะห์จากมอร์นิ่งสตาร์ Neil Macker ได้ให้ความเห็นก่อนหน้านี้ว่านักลงทุนควรระมัดระวังจากการที่ราคาหุ้น Netflix อยู่ในระดับสูงขณะที่จำนวนสมาชิกเติบโตช้าลง รวมทั้งเห็นว่าบริษัทมีการใช้จ่ายเพื่อผลิต original content ทำให้อัตรากำไรจะเติบโตได้ช้าลง จึงได้มีการปรับ fair value ลดลงมาที่ 280 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น รวมทั้งให้ความเห็นว่า Walt Disney (DIS) และ Warner Bros. Discovery (WBD) เป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจมากกว่าเนื่องจากมีโมเดลธุรกิจและแหล่งที่มาของรายได้และกระแสเงินสดที่หลากหลายกว่า

Subscribers ที่ลดลงจากหลายปัจจัย

จากตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงเทรนด์ของจำนวน subscribers หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการเติบโตในช่วงที่มีการ lockdown ทั่วโลก การปรับค่าสมาชิกของ Netflix ท่ามกลางการแข่งขันที่มากขึ้นจากผู้เล่นรายอื่นเช่น Disney+ และ Hulu ถือว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้จำนวนสมาชิกลดลง ขณะที่ยอดขายสมาร์ททีวีที่น้อยลงถือว่ามีผลต่อจำนวนสมาชิกเนื่องจากผู้ชมส่วนใหญ่จะรับชมผ่านทีวีมากกว่าบนมือถือ นอกจากนี้ยังมีตัวเลขสมาชิกอีกราว 7 แสนรายที่หายไปจากการงดให้บริการในรัสเซีย

แนวคิดบริการราคาต่ำและโฆษณา

ปัจจุบัน Netflix ได้มีการทดสอบเพื่อเก็บค่าบริการเพิ่มเติมกรณีการแชร์รหัสผ่านซึ่งบริษัทคาดหวังว่าจะเพิ่มจำนวนสมาชิกมากขึ้น และเป็นครั้งแรกที่ทางบริษัทกำลังพิจารณาให้บริการแบบที่ให้ผู้ชมรับชม content แบบเห็นโฆษณาโดยจะเก็บค่าบริการที่ต่ำกว่า ซึ่งจะทำให้บริษัทยังมีรายได้ที่เติบโตและมีทางเลือกให้ผู้บริโภคมากขึ้น

Netflix จะยังคงทุ่มงบประมาณกับการผลิต content

ผู้บริหาร Netflix จะยังคงแผนเพิ่มยอดผู้ชมและเพิ่มรายได้จากการพัฒนาในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะคุณภาพของรายการและการแนะนำรายการซึ่งมีผลต่อสมาชิกมากที่สุด นอกจากนี้บริษัทคาดหวังการเติบโตจากการผลิต local content ในต่างประเทศดังที่เคยประสบความสำเร็จเช่น Squid Game จากเกาหลีใต้