กองทุนหุ้นจีนเป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่ำสุดในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมาที่ -15.5% โดยมีเหตุผลจากทั้งปัจจัยในประเทศและต่างประเทศ หากไปดูที่ผลตอบแทนตามกลุ่มของกองทุนหลักจะพบว่ากลุ่ม US Fund China Region ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่มีส่วนการลงทุนใน ADR มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่ำสุดทั้งในรอบ 3 เดือนและ 1 ปี โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาติดลบถึง -23% การปรับตัวลงแรงของกองทุนเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงที่มีการเปิดเผย 5 รายชื่อหุ้นจีนที่อาจถูกเพิกถอนจากสหรัฐฯ ทำให้ ADR บริษัทอื่นปรับตัวลงตามไปด้วย สำหรับกลุ่ม EAA Fund China Equity, EAA Fund China Equity - A Shares และ EAA Fund Greater China Equity มีผลตอบแทนเฉลี่ยรอบ 3 เดือนที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน โดยทั้ง 3 กลุ่มมีผลตอบแทนเฉลี่ยเดือนมีนาคมที่ -6% ถึง -8%
แม้ว่าความนิยมกองทุนหุ้นจีน จะทำให้มีเงินไหลเข้ากองทุนหุ้นจีนสูงเป็นอันดับที่ 2 ของปี 2021 หากวิเคราะห์เพื่อเป็นการดูว่าโดยเฉลี่ยแล้วผู้ลงทุนไทยได้ผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นจีนตามการลงทุนจริงมากน้อยเพียงใด โดยใช้ค่า Investor Return ซึ่งต่างจาก Total Return คือ Investor Return จะนำส่วนของเม็ดเงินไหลเข้า-ออกกองทุนมาเป็นส่วนหนึ่งในการคำนวณผลตอบแทน หรือเรียกได้ว่าเป็น dollar-weighted return ซึ่งพบว่าโดยเฉลี่ยแล้วการลงทุนกองทุนหุ้นจีนนั้นได้ผลตอบแทน Investor Return ที่ต่ำกว่า Total Return หมายความว่านักลงทุนไทยมีการลงทุนหุ้นจีนในช่วงที่กองทุนให้ผลตอบแทนสูงทำให้เมื่อผลตอบแทนอยู่ในช่วงติดลบ นักลงทุนไทยจึงมีส่วนต่างที่เป็นผลลบที่มากกว่า
กองทุนอีกกลุ่มที่มีผลตอบแทนติดลบค่อนข้างมากคือกองทุนที่ลงทุนในกองทุนจาก ARK Investment Management โดย 4 กองทุน คือ ARKF, ARKG, ARKK, และ ARKW มีผลตอบแทนติดลบมากกว่า 20% ขณะที่ ARKQ อยู่ที่ -12.3%
มอร์นิ่งสตาร์ได้มีการจัดทำ Morningstar Analyst Rating สำหรับกองทุน ARK Innovation ETF (ARKK) โดยเป็นการประเมินกองทุนเชิงคุณภาพในด้าน 3 ด้านหลักคือ Process, People และ Parent ซึ่งกองทุน ARKK ได้เรตติ้งลดลงจากระดับ Neutral มาอยู่ที่ Negative ซึ่งหมายถึงกองทุนอยู่ในกลุ่ม 30% ที่แย่ที่สุดของกองทุนที่คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนส่วนเกินได้น้อยกว่าหรือเท่ากับศูนย์
เหตุผลที่ทำให้กองทุน ARKK ลงมาที่ระดับต่ำสุดคือ กองทุนยังมีความเสี่ยงในด้าน Parent และ People ซึ่งมีคุณ Cathie Wood เป็นผู้จัดการกองทุนเพียงหนึ่งเดียวมาตั้งแต่ก่อตั้งบลจ. ประกอบกับทีมนักวิเคราะห์ที่ถือว่ายังขาดประสบการณ์เชิงลึกในแต่ละอุตสาหกรรมเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น และขาดบุคลากรด้านบริหารความเสี่ยง บลจ.มีแผนการให้ผู้อำนวนการฝ่ายวิจัย Brett Winton รับช่วงต่อเพื่อรองรับความเสี่ยง key-person risk แต่คุณ Brett Winton ยังไม่เคยเป็นผู้จัดการกองทุนในประสบการณ์ 15 ปีที่ผ่านมา
ด้านการลงทุนของ ARK จะเน้นไปที่ 5 กลุ่มคือ AI, blockchain, DNA sequencing, energy storage และ robotics ซึ่งทางทีม ARK เชื่อว่าจะเป็นกลุ่มที่สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในอนาคต ซึ่งอาจเป็นธุรกิจขนาดเล็กที่ยังไม่ทำกำไรและขาดสภาพคล่อง และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ทาง ARK ต้องเผชิญความท้าทายคือ กองทุนมีเงินไหลเข้าจำนวนมากทำให้การลงทุนในหุ้นขนาดเล็กเหล่านั้นมีปัญหาสภาพคล่องมากขึ้น
พอร์ตโฟลิโอของกองทุน ARKK ล่าสุดมีจำนวนหุ้น 35 ตัวซึ่งน้อยลงจากในอดึตที่เคยสูงสุดในช่วงเดือนเมษายน 2021 ที่ 60 ตัว ทำให้กองทุน ARKK เป็นหนึ่งในกองทุนที่มีการลงทุนกระจุกตัวสูงมาก โดยหุ้น 10 อันดับแรกคิดเป็น 60% ของมูลค่าการลงทุน หากดูในส่วนรายธุรกิจพบว่าลงทุนใน biotechnology 15% ของพอร์ต หรือมากกว่า Russell Midcap Growth Index ถึง 5 เท่า (ปัจจุบันกองทุน ARKK ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม US Fund Mid-Cap Growth)