จีนมีการประกาศตัวเลขการเติบโตไตรมาสที่ 2 ของ GDP ที่ 7.9% จากปีที่แล้ว ซึ่งมีส่วนมาจากฐานต่ำในปีที่แล้วที่เป็นช่วงเริ่มการระบาด (ภาพที่ 2a) หากเทียบกับไตรมาสแรก real GDP จะอยู่ที่ราว 1.3% เทียบเท่า 5.3% ต่อปี ซึ่งที่ระดับ 5.3% นี้เพิ่มขึ้นจาก 1.6% ต่อปีในไตรมาสแรก แต่ก็ยังเป็นอัตราที่ต่างกับในอดีตค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว (GDP เติบโตเฉลี่ย 8%)
มอร์นิ่งสตาร์คาดว่า real GDP ของจีนรอบปี 2021 จะอยู่ที่ 8.2% ซึ่งเป็นการปรับลดลงจาก 8.5% และปี 2022 ที่ 4% จากก่อนหน้านี้ที่ 4.3% (ภาพที่ 2e) ซึ่งนับรวมผลกระทบจากการระบาดของสายพันธุ๋เดลต้า และผลจากมาตรการทางการจีนที่มีต่อภาคธุรกิจต่าง ๆ รวมทั้งคาดการณ์ว่าภาคการลงทุนจะมีส่วนในการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น้อยลงในอนาคต จากการออมที่ลดลงรวมทั้งความจำเป็นที่ต้องลดปริมาณสินเชื่อที่กำลังเติบโตขึ้น (ภาพที่ 2f และ 2g)
การลงทุนสินทรัพย์ถาวร
ณ ไตรมาส 2 ปี 2021 สินทรัยพ์ถาวรเติบโต 5.4% จากไตรมาส 2 ของปี 2019 (เพื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19) เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า (ภาพที่ 3a) ซึ่งพบว่ามาจากภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่เป็นไปตามความต้องการสินค้าส่งออกจากจีนที่สูง ขณะเดียวกันภาคอสังหาริมทรัพย์ก็ยังมีความแข็งแกร่ง ซึ่งที่ผ่านมาภาคธุรกิจอสังหาของจีนถือว่ามีส่วนสำคัญกับเศรษฐกิจ แต่กำลังเผชิญความเสี่ยงเนื่องจากการให้กู้ยืมแก่ภาคอสังหานั้นกำลังชะลอลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากเม็ดเงินที่ให้กู้ยืมแก่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กำลังหดตัวลง (ภาพที่ 3e)
บริษัทพัฒนาอสังหายังคงมีเป้าที่จะเพิ่มการขายเพื่อให้ทันกับความต้องการกระแสเงินสด (ภาพที่ 3f) ซึ่งส่วนใหญ่คือส่วนของพรีเซลล์ ในขณะที่ยังมีซัพพลายที่ยังขายไม่ออกอีกจำนวนหนึ่ง ฉะนั้นยอดขายที่เติบโตของบริษัทภาคอสังหานั้นจะมาจาก floor space ที่ขายได้มากขึ้นพร้อมกับราคาที่เพิ่มขึ้น (ภาพที่ 3g) อย่างไรก็ตามปริมาณซัพพลายที่มากก็จะทำให้ราคาตกได้เช่นกัน ทำให้โดยรวมแล้วมอร์นิ่งสตาร์คาดว่าการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์นั้นจะชะลอลงในระยะใกล้นี้ แต่ก็ยังอาจบอกได้ยากว่าจะช้าแบบถาวรหรือไม่ ซึ่งทางภาครัฐอาจผ่อนมาตรการเพื่อให้ภาคอสังหาที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจจีนยังสามารถเติบโตต่อไปได้
ในบทที่สองเราจะไปพูดถึงในส่วนของภาคการบริโภคและภาคการเงินกันบ้างว่าเป็นอย่างไร นโยบายจากทางการจีนนั้นบอกอะไรกับเรา และจะส่งผลต่อการเติบโตของประเทศจีนในอนาคตอย่างไรบ้าง
(หมายเหตุ ข้อมูลทั้งหมดมาจาก Morningstar และ National Bureau of Statistics of China)