มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 13.8%
กองทุน SSF มีมูลค่าทรัพย์สินที่ 2.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8% จากสิ้นปี 2020 หรือเพิ่มขึ้น 3.3% จากไตรมาสแรกของปี โดยในรอบ 5 เดือนแรกของปีนี้มีเงินไหลเข้าสุทธิรวม 1.7 พันล้านบาท หรือเฉลี่ย 300 กว่าล้านบาทต่อเดือน
เม็ดเงินไหลเข้ามากที่สุดในกองทุนกลุ่ม Global Equity
กองทุนกลุ่ม Global Equity หรือกองทุนที่ลงทุนในหุ้นทั่วโลกยังคงเป็นกลุ่มที่ได้รับความสนใจมากที่สุดอย่างต่อเนื่อง โดยมีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิสะสม 5 เดือนที่ 600 กว่าล้านบาท เกือบครึ่งหนึ่งเป็นเงินไหลเข้าไปที่กองทุน K Positive Change Equity-SSF จากบลจ.กสิกรไทย โดยรวมกองทุนกลุ่มนี้มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่เกือบ 4.9 พันล้านบาท หรือสูงกว่าสิ้นปี 2020 ราว 20% ทำให้กลุ่ม Global Equity มีส่วนแบ่งตลาดกองทุน SSF เพิ่มขึ้นเป็น 19%
กองทุนหุ้นจีนก็เป็นอีกกลุ่มกองทุนต่างประเทศที่ได้รับความสนใจ รวมเงินไหลเข้าสุทธิรอบ 5 เดือนแรกสูงเป็นอันดับ 3 ที่ 274 ล้านบาท มูลค่าทรัพย์สินรวมแตะที่ระดับ 1 พันล้านบาท ทำให้มีส่วนแบ่งตลาดขยับขึ้นมาที่ 4.1% ในช่วงปีนี้กองทุน SSF หุ้นจีนมีผลตอบแทนที่เฉลี่ยที่ 2.3% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าหลายกลุ่ม
ด้านกองทุนหุ้นขนาดใหญ่ (Equity Large-Cap) มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 12.6% จากสิ้นปี 2020 แต่ถือว่าทรงตัวจากไตรมาสแรก มีเงินไหลเข้าสุทธิสะสมรอบ 5 เดือนแรก 361 ล้านบาท และยังคงเป็นกลุ่มที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่เกือบ 40% สร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 11.8%
ในแง่ของภาพรวมผลตอบแทนสะสม 5 เดือนแรกนั้น กลุ่มกองทุนส่วนใหญ่มีผลตอบแทนเป็นบวกเกือบทั้งหมด ยกเว้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (Property – Indirect และ Property Indirect Flexible) และกองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก โดยการลงทุนหุ้นไทยถือว่าให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างดี นำโดยกลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็ก มีผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดที่ 24.4% ทำให้ 10 อันดับกองทุนผลตอบแทนสูงสุดรอบ 5 เดือนแรกนั้นเป็นการลงทุนเกี่ยวกับหุ้นไทยทั้งหมด
นักลงทุนที่สนใจข้อมูลกองทุน SSF สามารถเข้าดูได้ที่ กองทุน SSF