ในช่วงไตรมาสสุดท้ายถือว่าผลตอบแทนโดยรวมเป็นไปในทิศทางที่ดีกว่าไตรมาสก่อนหน้า กองทุนรวมต่างประเทศหลายกลุ่มยังมีผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกต่อเนื่อง เช่นกลุ่ม Global Technology ที่ 15.5% ทำให้มีผลตอบแทนเฉลี่ยสะสมทั้งปีที่เกือบ 50% กลุ่ม Global Equity สะท้อนภาพทิศทางเดียวกันกับการลงทุนในสหรัฐอเมริกา มีผลตอบแทนเฉลี่ยใกล้เคียงไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 10.9% รวมสะสมทั้งปี 23.7%
ด้านภูมิภาคเอเชีย กลุ่มตลาดเกิดใหม่หรือกลุ่มอาเซียน มีการฟื้นตัวที่ดีจากผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 16.6%, 17.3% และ 18.3% ตามลำดับจากที่ก่อนหน้านี้มีผลตอบแทนเป็นรองทางฝั่งกลุ่มอเมริกา และจีนค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามหากพิจารณาที่ผลตอบแทนเฉลี่ยทั้งปีอาจยังให้ผลตอบแทนที่ไม่สูงนัก
กองทุนรวมหุ้นไทยกลุ่ม Equity Large-Cap มีการฟื้นตัวที่ชัดเจนโดยเฉลี่ยที่ 13.7% (SET TR 3 เดือน = 17.4%) แต่อย่างไรก็ตามจากรอบ 9 เดือนมีผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบถึง 21% จึงทำให้ในรอบ 1 ปียังคงติดลบ 10.4% (SET TR ปี 2020 = -5.2%) กลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็กสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยได้ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ยสะสมทั้งปี 0.9% โดยในไตรมาสล่าสุดเฉลี่ยที่ 10.0%
หากมองภาพระยะยาวเช่น 10 ปีจะเห็นได้ว่าการลงทุนในหุ้นไทยกลุ่ม Equity Large-Cap ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 4.8% ซึ่งถือว่าไม่แย่กว่ากลุ่มอื่นมากนัก และยังสูงกว่าหลายกลุ่มเช่น หุ้นจีน ญี่ปุ่น หรือกลุ่มตลาดเกิดใหม่ อย่างไรก็ดีผลตอบแทนจากหุ้นไทยจากนี้อาจขึ้นอยู่กับสภาวะหรือโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ว่าจะส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจที่มีรูปแบบหรือนวัตกรรมใหม่ในประเทศให้ทันโลกที่เปลี่ยนแปลงไปได้มากน้อยเพียงใด
ในไตรมาสสุดท้ายของปีราคาทองคำเคลื่อนตัวลงจากช่วงไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนไปยังผลตอบแทนกลุ่ม Commodities Precious Metals ที่ -2.2% แต่ผลตอบแทนเฉลี่ยสะสมทั้งปีอยู่ที่ 22.4% ซึ่งยังสูงกว่าหลายกลุ่ม ด้านกองทุนน้ำมันมีผลตอบแทน 13.7% ในไตรมาสสุดท้าย โดยในระยะยาวถือว่ายังเป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนโดยเฉลี่ยกว่ากว่ากลุ่มอื่นอย่างชัดเจน
กลุ่มตราสารหนี้ในประเทศมีแนวโน้มที่ดีกว่าช่วงก่อนหน้าทั้งในกลุ่ม Short Term Bond และ Mid/Long Term Bond ทำให้มีผลตอบแทนเฉลี่ยสะสมทั้งปีที่ 0.6% และ 1.0% ตามลำดับ อย่างไรก็ตามปี 2020 ถือเป็นอีกปีที่กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าโดยกลุ่ม Global Bond เฉลี่ยอยู่ที่ 3.6% ทั้งนี้แนวโน้มการลดดอกเบี้ยในรอบหลายปีที่ผ่านมาทำให้ผลตอบแทนกองทุนตราสารหนี้ต่ำลงค่อนข้างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่นช่วงปี 2011-2015 การลงทุนในตราสารหนี้กลุ่ม Short Term Bond มีผลตอบแทนราว 2%-3% ขณะที่ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ช่วง 1%-2%