ในช่วงที่ผ่านมานี้เทรนด์การลงทุนอย่างยั่งยืนหรือ Sustainability Investment เป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจจากหลาย บลจ. ในต่างประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่นักลงทุนเองก็ให้ความสำคัญมากขึ้นอย่างชัดเจนเช่นกัน ซึ่งจากข้อมูลล่าสุด การลงทุนในกองทุนที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลหรือ เรียกง่าย ๆ ว่ากองทุน ESG ในสหรัฐอเมริกานั้นมีเงินไหลเข้าสูงเป็นประวัติการณ์ โดยในปี 2019 มีเงินไหลสุทธิ 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่ปี 2018 มีเงินไหลเข้าสุทธิเพียง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ที่มา : Morningstar Direct, ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2019
ประเด็นของ ESG นั้นมีแนวคิดหลักเพื่อส่งเสริมการลงทุนอย่างยั่งยืนและในขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อโลกของเรา หรืออาจมองเป็นการจัดการความเสี่ยงรูปแบบหนึ่ง เนื่องจากบริษัทที่มีแนวปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนจะสามารถจัดการหน้าที่/ความรับผิดชอบต่อส่วนรวมได้ดีกว่า หรืออาจมีโอกาสเติบโตได้มากกว่าในอนาคต
ในด้านของกองทุน การลงทุนโดยคำนึงถึง ESG มีเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปจากการคัดกรองบริษัทที่มีประเด็นเชิงลบด้าน ESG เช่น บริษัทที่ก่อให้เกิดมลพิษ หรือผู้ผลิตหรือจำหน่ายยาสูบ/บุหรี่ ไปเป็นแบบที่มีกลยุทธ์ในการคัดกรองบริษัทอย่างเป็นระบบ เพื่อจำแนกบริษัทที่ดีที่สุดหรือแย่ที่สุดในแต่ละอุตสาหกรรม
บลจ. ต่างประเทศหันมาให้ความสนใจการลงทุนยั่งยืนกันอย่างกว้างขวาง
ในขณะเดียวกันก็มีการเปลี่ยนแปลงในด้านของผู้ลงทุนสถาบัน จากเดิมในอดีตจะเป็นลักษณะของบริษัทจัดการกองทุนบางรายที่มีความเชี่ยวชาญในการลงทุน ESG กลายเป็นเทรนด์การลงทุนที่ได้รับความสนใจมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นบลจ. ขนาดใหญ่หรือเล็ก ยกตัวอย่างเช่น บลจ.รายใหญ่อย่าง Vanguard ที่มีกองทุน Vanguard Global ESG Select Stock ที่บริหารแบบเชิงรุกที่มีกลยุทธ์เน้นด้าน ESG หรือจะเป็นบลจ. PIMCO ที่ปัจจุบันเป็นบลจ.ต่างชาติที่กองทุนไทยนิยมไปลงทุน เริ่มมีการปรับกองทุนเด่นของบลจ.ให้เป็นกองทุนเวอร์ชั่น ESG
ทางด้าน T. Rowe Price ก็เป็นอีกบลจ.ที่ให้ความสำคัญกับ ESG เช่นกัน แต่จะมีความแตกต่างโดยไม่ได้เพียงแค่คำนึงถึงการลงทุน แต่ยังมีทีมงานที่มีหน้าที่ประเมินบริษัทหรือวางแนวทางด้านความเสี่ยงที่ผู้จัดการกองทุนสามารถนำไปปรับใช้ในการบริหารกองทุน
ESG จะช่วยให้ผลตอบแทนดีขึ้นหรือไม่
คำถามนี้อาจเป็นคำถามที่ยังต้องหาคำตอบกันต่อไป หากดูที่ผลตอบแทนกองทุน ESG โดยรวมแล้วจะให้ผลตอบแทนที่ระดับค่าเฉลี่ย หรือแปลว่าอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนคาดหวังไว้ว่า ESG จะทำให้ผลตอบแทนดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็ไม่ได้เสียหายอะไรหากจะมีการลงทุนอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตามจากที่ได้กล่าวไปตอนต้นว่าการให้ความสนใจการลงทุนด้านนี้โดยบลจ.รายใหญ่ ส่งผลบวกที่สำคัญคือการลงทุนยั่งยืนจะมีแนวโน้มของค่าธรมมเนียมที่ต่ำลง หรืออาจทำให้กองทุนมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าดัชนีชี้วัดได้มากขึ้น
แม้ว่าการลงทุนในกองทุน ESG อาจเป็นสิ่งที่ยังไม่ได้รับความสนใจมากนักในประเทศไทย อย่างไรก็ตามการลงทุนอย่างยั่งยืนนี้อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนได้ อีกทั้งการลงทุน ESG นั้นเป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโตมากขึ้นโดยเฉพาะในต่างประเทศ ซึ่งอาจจะเป็นจังหวะที่ดีที่นักลงทุนไทยควรเริ่มหันมาศึกษาการลงทุนอย่างยั่งยืน โดยลงทุนสามารถตรวจสอบข้อมูลกองทุนไทยในด้านการลงทุน ESG ได้โดยเข้าไปที่ “กองทุนยั่งยืน” หรือคลิกที่นี่ เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของกองทุนยั่งยืน ซึ่งนักลงทุนสามารถดูรายชื่อกองทุนไทยที่ได้รับการจัดเรตติ้ง Morningstar Sustainability Rating ในหลายมิติเช่น ผลตอบแทน ค่าธรรมเนียม ความเสี่ยง หรือดูควบคู่ไปกับ Morningstar Rating ซึ่งจะทำให้นักลงทุนสามารถค้นหากองทุนยั่งยืนได้ง่ายขึ้น