นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ของกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ที่ได้รับรางวัล Morningstar Awards 2017 ประเภทกองทุนตราสารหนี้ระยะกลางและยาว (Mid/Long Term Bond) จุดเด่นที่สำคัญคือการสร้างผลตอบแทนเอาชนะค่าเฉลี่ยได้อย่างสม่ำเสมอโดยกองทุนมีผลตอบแทน 5ปีย้อนหลังอยู่ที่ 3.44% ต่อปี กองทุนมีการผสมผสานการลงทุนระหว่างหุ้นกู้ภาคเอกชนกับตราสารหนี้ภาครัฐได้อย่างเหมาะสมโดยที่ไม่ทำให้กองทุนมีความเสี่ยงจนมากเกินไป
เทคนิคในการบริหารจะเป็นอย่างไร เชิญติดตามได้จากบทสัมภาษณ์พิเศษจากทีมผู้บริหารกองทุน บลจ กสิกรไทย
คำถาม: นับเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่กองทุน K Fixed Income ได้รับรางวัล Morningstar Awards ในกลุ่มกองทุนตราสารหนี้ระยะกลางและยาว (Mid/Long Term Bond) ท่านคิดว่าอะไรคือองค์ประกอบที่สำคัญที่ทำให้กองทุนประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
คำตอบ: สิ่งสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้กองทุน K Fixed Income ได้รับรางวัลมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะหัวใจสำคัญในการดำเนินงาน 3 สิ่ง คือ
- การบริหารจัดการที่ดี ซึ่งมีการกำหนดและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้มีความเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา และสภาวะตลาด
- การทำงานแบบ Teamwork : ทั้งในส่วนทีมผู้จัดการกองทุน และทีมซื้อขายหลักทรัพย์ที่ช่วยประเมินสภาพตลาด ทำให้การซื้อขายเพื่อกองทุนมีประสิทธิภาพทั้งด้านจำนวนและราคา
- การพัฒนาเครื่องมือและการวิจัยภายในอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ประกอบการลงทุน ทำให้ตัดสินใจได้แม่นยำมากขึ้น อาทิเช่น 1. Internal Yield Curve Model ที่ช่วยในการคัดเลือกชุดของตราสารหนี้ที่คาดว่าจะให้-ผลตอบแทนที่ดีที่สุด ภายใต้สมมติฐานตลาดในขณะนั้น 2. Internal Credit Scoring Framework ที่นำทั้งปัจจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative) และเชิงปริมาณ(Quantitative) เพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสารในเชิงลึก อีกทั้งหาโอกาสทั้งในส่วนของ Credit Upgrade หรือ Credit Downgrade
คำถาม: กองทุน K Fixed Income ถือเป็นหนึ่งในกองทุนตราสารหนี้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม และในแต่ละวันมีเงินไหลเข้าออกกองทุนเป็นจำนวนมาก ท่านมีวิธีบริหารจัดการอย่างไรต่อเรื่องดังกล่าวนี้ และถือเป็นอุปสรรคในการลงทุนหรือไม่อย่างไร
คำตอบ: ปริมาณเงินไหลเข้าออกจำนวนมากในแต่ละวัน ไม่ถือเป็นอุปสรรคในการลงทุน โดยกองทุน K Fixed Income ยังคงสามารถบริหารสภาพคล่องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ โดยอาศัยปัจจัยดังต่อไปนี้
- การทำ scenario analysis และ liquidity management report โดยสม่ำเสมอ ทำให้มั่นใจได้ว่าระดับของสภาพคล่องมีเพียงพอหากมีไถ่ถอนเงินลงทุน
- การศึกษาพฤติกรรมของผู้ถือหน่วยลงทุนแต่ละประเภทในแต่ละช่วงเวลา ทำให้ประเมินทิศทางเงินไหลเข้าออกกองทุนได้แม่นยำขึ้น
- การวิเคราะห์สภาพคล่องของตราสารหนี้ในภาพรวม อาทิ ปริมาณอุปสงค์อุปทานตราสารหนี้ กระแสเงินทุนไหลเข้าออก รวมถึง global asset allocation trend ทำให้เข้าใจถึงความต้องการของนักลงทุนต่อ K Fixed Income ในช่วงเวลานั้น
คำถาม: กองทุน K Fixed Income มีหลักการในการเลือกลงทุนตราสารหนี้อย่างไร และท่านให้ความสำคัญมากน้อยแค่ไหนต่อเรื่องของ อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate) อันดับความน่าเชื่อถือของตราสาร (Credit) และอายุของตราสารหนี้ (Duration)
คำตอบ: กองทุน K Fixed Income จะเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง เพื่อใช้ปรับเพิ่มและลดดูเรชั่น แต่สำหรับช่วงเวลาที่ความผันผวนไม่มาก K Fixed Income จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้เอกชนเพื่อหาอัตราผลตอบแทนเพิ่มเติมจาก Credit Spread โดยทีมผู้จัดการกองทุนจะให้ความสำคัญกับ อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate) อันดับความน่าเชื่อถือของตราสาร (Credit) และอายุของตราสารหนี้ (Duration) ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ในการสร้างอัตราผลตอบแทนเพิ่มเติม (Alpha) โดยในแต่ละช่วงเวลา Alpha อาจมีผลจากปัจจัยหนึ่งมากกว่าอีกปัจจัย
คำถาม: เมื่อพิจารณาถึงพอร์ตการลงทุนของกองทุน K Fixed Income แล้วนั้นจะเห็นได้ว่ามีการลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐที่น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม โดยจะให้น้ำหนักไปยังตราสารหนี้ภาคเอกชนมากกว่า เหตุใดท่านจึงให้น้ำหนักการลงทุนไปยังตราสารหนี้ภาคเอกชนมากกว่า และตรงจุดนี้จะถือได้ว่าเป็นทำให้กองทุนนั้นมีความเสี่ยงที่สูงมากขึ้นหรือไม่ อย่างไร และท่านมีแนวทางการบริหารความเสี่ยงตรงจุดนี้อย่างไร
คำตอบ: การกำหนดสัดส่วนของการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภท (Asset Allocation) ของกองทุน K Fixed Income จะมีการยืดหยุ่นตามภาวะตลาดในขณะนั้น โดยสัดส่วนหุ้นกู้ภาคเอกชนจะอยู่ในกรอบ 30%-55% และสัดส่วนตราสารหนี้ภาครัฐ อยูในกรอบ 20%-40% ถือเป็นสภาพคล่องในระดับที่เหมาะสม(Optimal Liquidity Level) เพียงพอสำหรับการปรับทิศทางการลงทุนและรองรับกระแสเงินไหลเข้าออก
โดยกองทุนจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในห้นกู้ภาคเอกชนมาอยู่ที่กรอบบน หากระดับ Credit Spread อยู่ในระดับที่น่าสนใจ ภายใต้การบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตที่ครอบคลุม โดยกองทุนให้ความสำคัญทั้งในเรื่องความสามารถในการชำระหนี้และการกระจายการลงทุน
คำถาม: สิ่งแรกสำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจะลงทุนในกองทุน K Fixed Income ควรจะทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุนคืออะไร และกองทุน K Fixed Income เหมาะกับผู้ลงทุนแบบไหนและควรมีบทบาทอย่างไรในพอร์ตโฟลิโอของผู้ลงทุน
คำตอบ: K Fixed Income เป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ภายในประเทศ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีความมั่นคงสูง และเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะปานกลางถึงยาว มีอายุเฉลี่ยของตราสารเคลื่อนไหวระหว่าง 2- 4 ปี กองทุน K Fixed Income จึงไม่เหมาะสำหรับการลงทุนเพื่อใช้พักเงินระยะสั้น แต่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความประสงค์จะลงทุนในระยะกลางถึงยาว และสามารถรับความผันผวนของ NAV/unit ได้