ครั้งแรกสำหรับ บลจ. ทหารไทย ที่ได้รับรางวัล Morningstar Awards โดยกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพศาล ที่มีจุดเด่นคือ ความสม่ำเสมอในการสร้างผลตอบแทนที่ดีสูงถึง 2.97% ต่อปีตลอดช่วง 5ปีที่ผ่านมานี้ และกองทุนสามารถทำผลตอบแทนชนะค่าเฉลี่ยกองทุนได้ในทุกๆปี โดยทีมผู้จัดการกองทุนจะให้ความสำคัญมากในด้าน อันดับความน่าเชื่อถือของตราสาร(Credit Risk) เป็นอันดับแรก รองลงมาคืออัตราดอกเบี้ย(Interest Rate) และ อายุของตราสาร(Duration) ตามลำดับ
และนึคือบทสัมภาษณ์พิเศษจากทีมผู้บริหารกองทุน บลจ ทหารไทย
คำถาม: นับเป็นครั้งแรกที่กองทุน TMB Bond ได้รับรางวัล Morningstar Awards ไทย ท่านคิดว่าอะไรคือองค์ประกอบที่สำคัญที่ทำให้กองทุนประสบความสำเร็จในครั้งนี้
คำตอบ: ในปี 2016 กองทุน TMB Bond ได้ปรับแผนกลยุทธการลงทุน ให้มีสัดส่วนการลงทุนในตราหนี้ต่างประเทศมากขึ้น จากเดิมที่เน้นลงทุนในเงินฝากธนาคารและตราสารหนี้ระยะสั้น แต่ก็ยังคงรักษาระดับของความผันผวนให้อยู่ในระดับต่ำ โดยลงทุนในตราสารที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับน่าลงทุน (Investment Grade) ขึ้นไปเท่านั้น
คำถาม: จุดเด่นอย่างหนึ่งที่ทำให้กองทุน TMB Bond ประสบความสำเร็จคือการรักษาผลตอบแทนให้สูงในระดับต้นๆของกลุ่มในขณะที่ความเสี่ยงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม ท่านมีเทคนิคในการลงทุนอย่างไรเพื่อให้ได้ผลการการดำเนินงานที่ดีอย่างสม่ำเสมอเช่นนี้
คำตอบ: กลยุทธหลักในการบริหารกองทุนตราสารหนี้ของ บลจ ทหารไทย คือ การบริหารความเสี่ยงทางด้านความผันผวนของราคา โดยการคัดเลือกตราสารที่มีความผันผวนของราคาต่ำเมื่อเทียบกับผลตอบแทน ซึ่ง บลจ ทหารไทยเชื่อว่า เป็นเทคนิคที่ช่วยให้รักษาผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอ และไม่มีความผันผวนมากจนเกินไป
คำถาม: กองทุน TMB Bond มีหลักการในการเลือกลงทุนตราสารหนี้อย่างไร และท่านให้ความสำคัญมากน้อยแค่ไหนต่อเรื่องของ อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate) อันดับความน่าเชื่อถือของตราสาร (Credit) และอายุของตราสารหนี้ (Duration) รวมถึงเรื่องของการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
คำตอบ: กองทุน TMB Bond เลือกลงทุนตราสารหนี้ ที่คุณภาพดี และเหมาะกับการลงทุนระยะปานกลางขึ้นไป โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่างซึ่งจัดเก็บโดยระบบฐานของมูลภายใน เช่น การจัดอันดบความน่าเชื่อถือภายใน (Internal Rating) ตลอดจนข้อมูลด้านสถิติ เช่นความถี่ของการซื้อขาย เมื่อเทียบกับขนาดของตราสารหนี้บริษัทที่ลงทุน
การเลือกลงทุนนั้น ทางฝ่ายจัดการลงทุนให้ความสำคัญมากในด้าน อันดับความน่าเชื่อถือของตราสาร(Credit Risk) เป็นอันดับแรก รองลงมาคืออัตราดอกเบี้ย(Interest Rate) และ อายุของตราสาร(Duration) ตามลำดับ
โดยเหตุผลหลักเนื่องมาจาก กองทุน TMB Bond สามารถใช้เครื่องมือทางการเงินในการปรับเปลี่ยนและควบคุมอายุของตราสารได้เร็วที่สุด เมื่อมีการเหตุการณ์ที่กระทบต่อตลาดจนทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุน และ รองลงมาคือ อัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ความน่าเชื่อถือของตราสารเป็นความเสี่ยงที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ยากที่สุด
การบริหารความเสี่ยงของกองทุนจะมีความแตกต่างกันไปสำหรับตราสารหนิ้ในแต่ละประเทศ เนื่องมาจากในแต่ละประเทศมีปัจจัยที่แตกต่างกัน โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดในการลงทุนในหลายหลายประเทศคือ การ ใช้กลยุทธการบริหารความแตกต่างของโครงสร้างอัตราดอกเบี้ย (Multiple Yield Curve Management) โดยการติดตามการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างอัตราดอกเบี้ย ทั้งใน และ ต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อหาตราสารที่เหมาะสมที่สุดในการลงทุนในแต่ละช่วงเวลา เพื่อเพิ่มความสมดุล และผลตอบแทน ของกองทุน
คำถาม: อะไรคือจุดเด่น สไตล์ และองค์ประกอบที่สำคัญของทีมผู้จัดการกองทุนตราสารหนี้ของ บลจ. ทหารไทย
คำตอบ: ทีมผู้จัดการกองทุนของบลจ. ทหารไทย มีความสามารถที่หลากหลายจากประสบการณ์ที่ยาวนาน และสนับสนุนด้วยทีมวิเคราะห์เครดิตที่เข้มแข็ง โดยสิ่งที่สำคัญคือการบริหารกองทุนเป็นทีม และ การจัดการกองทุนที่มีผู้จัดการกองทุนที่มีความชำนาญในแต่ละด้าน มาระดมความคิดเพื่อสร้างกองทุนแต่ละกองให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของผู้ลงทุนอย่างเหมาะสมที่สุด
คำถาม: สิ่งแรกสำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจะลงทุนในกองทุน TMB Bond ควรจะทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุนคืออะไร และกองทุน TMB Bond เหมาะกับผู้ลงทุนแบบไหนและควรมีบทบาทอย่างไรในพอร์ตโฟลิโอของผู้ลงทุน
คำตอบ: ผู้ลงทุนที่สนใจ ควรทำเข้าใจ เรื่องของ ความเสี่ยงและ พิจารณาว่าผู้ลงทุนสามารถรับความเสี่ยงประเภทใดได้ในระดับใด โดย กองทุน TMB Bond จะมีความเสี่ยงน้อยมากด้านอันดับเครดิต และอาจมีความเสี่ยงปานกลางในด้านอายุของตราสาร ซึ่งเป็นกลยุทธที่เหมาะกับวัตถุประสงค์ของกองทุน คือ ลงทุนในระยะปานกลาง(อย่างน้อยควรตั้งใจลงทุน 6เดือน ถึง 1ปีขึ้นไป)