ช่วงเวลาต้นปีแบบนี้นักลงทุนหลายคนที่คุ้นเคยกับการลงทุนใน LTF และ RMF เป็นอย่างดีคงกำลังนั่งคิดตัดสินใจกันอยู่ว่าจะทำอย่างไรดีกับกองทุน LTF และ RMFเพราะจากพฤติกรรมปกติของผู้ลงทุนใน LTF นั้นส่วนใหญ่จะทำการซื้อในช่วงท้ายของปีและทำการขายในช่วงต้นของปี ดังนั้นตอนนี้ใครที่ลงทุนกันมาจนครบกำหนดและมีสิทธิสามารถขายได้โดยไม่ผิดกฎการรับสิทธิการลดหย่อนภาษี “พูดง่ายๆก็คือสำหรับกองทุน LTF หากใครลงทุนกองทุน LTF ในปี 2556 หรือก่อนหน้านั้น สามารถขายได้เลยตอนนี้”
หลายท่านคงขาย LTF กันไปแล้วเพราะจากข้อมูลที่ Morningstar มีอยู่พบว่าเดือนมกราคม 2560 ที่ผ่านมานี้มีเงินไหลออกจาก (ขายสุทธิ) แล้วกว่า 8,873 ล้านบาท
แต่คำถามสำคัญที่ผมอยากจะให้ท่านนักลงทุนตอบตัวเองให้ได้ก่อนที่จะทำการขายกองทุน LTF ที่ท่านถืออยู่นี้มีอยู่ 2 ข้อง่ายๆ นั้นเป็นเพราะเราไม่ควรขายเพียงเพราะว่าเราลงทุนมาครบกำหนดอายุ หรือ พูดง่ายๆก็คือขายกองทุนออกไปโดยไม่มีเหตุผล ฉะนั้นลองตอบคำถามข้างล่างนี้ก่อนตัดสินใจขาย
- ผลตอบแทนของกองทุน LTF ที่ท่านลงทุนอยู่นั้นเป็นอย่างไร?
แน่นนอนที่สุดเวลาเราลงทุนกับอะไรไปแล้วอย่างใดอน่างหนึ่ง สิ่งที่เรามักจะคาดหวังตามมาก็คือ ผลตอบแทน ถึงแม้จะเป็นกองทุน LTF ที่เราได้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีแล้วก็ตาม เราก็ควรดูผลตอบแทนด้วยเช่นกัน ดังนั้นเช็คกันให้แน่ใจก่อนว่ากองทุน LTF ที่ท่านลงทุนมานั้นมีผลตอบแทนเป็นอย่างไร
ผมลองทำผลตอบแทนเฉลี่ยโดยเทียบเคียงจากดัชนี SET Index คราวๆมาให้ท่านดูโดยสมมุติว่าท่านลงทุนในแต่ละเดือนของปี 2556 แล้วมาขายตอนสิ้นเดือนมกราคม 2560 ที่ผ่านมานี้
2. หลังจากทำการขายแล้วนั้นเงินที่ได้มาจะเอาไปทำอะไรต่อ?
นี่คืออีกหนึ่งคำถามสำคัญที่ต้องตอบตัวเองให้ได้ ผมเห็นหลายคนที่ขายหน่วยลงทุน LTF แล้วพอได้เงินมากลับนำเงินไปใช้จ่ายกับของใช้ที่ไม่จำเป็นสุดท้ายแล้วเงินลงทุนที่เราได้มาพร้อมผลตอบแทนก็อาจจะหมดไปอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าท่านขายแล้ว นำเงินดังกล่าวไปลงทุนต่อในหรือบางคนอาจจะมีภาระที่ต้องใช้เงิน เช่น ชำระค่าบ้าน ผ่อนรถยนต์ นำไปจ่ายค่าเทอมค่าเรียนลูก หรือบางคนอาจจะมองว่าเป็นการลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆต่อ แค่นั้นก็ถือเป็นเหตุผลในการขายที่ดีเพียงพอแล้ว
รู้หรือไม่? กองทุน LTF นั้นเมื่อท่านลงทุนครบตามระยะเวลาที่กฏเกณฑ์กำหนด ท่านสามารถถือต่อไปได้ไม่จำเป็นต้องขาย ซึ่งหากท่านไม่ขายก็ให้คิดซะว่าเรากำลงลงทุนในกองทุนหุ้นไทยต่อไปนั้นเองเพราะกองทุน LTF นั้นก็คือกองทุนหุ้นนั้นเอง จากนั้นแล้วเมื่อไหร่ที่ท่านมีเหตุอันจำเป็นที่ต้องขายดังที่กล่าวมาในเบื้องต้น ก็ค่อยขายก็ยังไม่สาย อย่าคิดว่า LTF นั้นเป็นเพียงเครื่องมือประหยัดภาษ๊ ผมอยากให้มองเป็นเรื่องของการลงทุนระยะยาวมากกว่า
และสุดท้ายนี้สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาลงทุนในกองทุน LTF เมื่อปีที่แล้วหรือกำลังคิดว่าจะลงทุนในปีนี้นั้นกฎเกณฑ์การถือครองกองทุน LTF นั้นได้เปลี่ยนจาก 5 ปีปฎิทินเป็น 7 ปีปฎิทินแล้วนะครับ ดังนั้นใครลงทุนเมื่อปีที่แล้วก็จะขายได้ตอนปี 2565 นะครับ อย่าลืม!!!