ปัจจุบันเริ่มมีการตื่นตัวเรื่องสังคมสูงวัยกันมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนสนใจเรื่องการวางแผนเกษียณมากขึ้น วันนี้เราจะมาดูกันว่า Target -Date Fund นั้นมีส่วนในการลงทุนยุคปัจจุบันอย่างไรบ้าง

ที่มาที่ไปของ Target-Date Fund

Target-Date Fund (TDF) หรือคนไทยอาจคุ้นเคยในชื่อ กองทุนสมดุลตามอายุ เริ่มมีการเปิดครั้งแรกในช่วงต้นยุค 90 หรือ 20 กว่าปีที่แล้วในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถูกออกแบบมาช่วยผู้ลงทุนที่อาจประสบปัญหาในการวางแผนออมเงินเพื่อวัยเกษียณว่าจะแบ่งสัดส่วนการลงทุนอย่างไรให้เหมาะสมกับช่วงอายุ โดยนักลงทุนสามารถเลือกกองทุนประเภทนี้ตามปีที่คาดว่าจะเกษียณซึ่งจะระบุที่ชื่อกองทุน เช่น Vanguard Target Retirement 2025 Inv เป็นต้น

ปัจจุบันกองทุนประเภทนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นโดยเฉพาะใน 2 ปีที่ผ่านมา มูลค่าทรัพย์สินกองทุน TDF เพิ่มขึ้นไปทำสถิติสูงสุดที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2017 โดยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมามีเงินไหลเข้ากองทุนประเภทนี้เฉลี่ยมากกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ในปี 2006 กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ มีการออกกฎหมายโดย Pension Protection Act ที่กำหนดให้ลูกจ้างเข้าร่วมแผนเกษียณที่กำหนดให้ TDF เป็นตัวเลือกโดยอัตโนมัติ

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ Target-Date Fund ในสหรัฐอเมริกาปี 2004-2018

ที่มา: Morningstar

การลงทุนของ Target-Date Fund

Target-Date Fund จะลงทุนในกองทุนอื่น ๆ หลายประเภททรัพย์สินเช่น หุ้น (ไม่ว่าจะเป็นหุ้นใหญ่หรือเล็ก) หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ เงินสด หรือประเภทอื่น ๆ และกองทุนจะมีการปรับสัดส่วนเพื่อลดความเสี่ยงลงเรื่อย ๆ เมื่อเข้าใกล้ปีที่ระบุไว้ ซึ่งหมายความว่ากองทุนจะทำการ Rebalancing เพื่อให้สัดส่วนที่เน้นการเติบโตหรือสัดส่วนของหุ้นนั้นลดลง และเพิ่มสัดส่วนตราสารหนี้ให้มากขึ้นตามระยะเวลาที่ผ่านไป หรือพูดง่าย ๆ ว่า อายุน้อยเสี่ยงมาก อายุมากเสี่ยงน้อย

ยกตัวอย่างเช่นกองทุนกลุ่ม Target Date 2030 หรือกองทุนที่ผู้ลงทุนวางแผนว่าจะเกษียณในอีกราว 11 ปีข้างหน้า มักจะมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นน้อยกว่ากลุ่ม Target Date 2055 หรือกองทุนที่เหมาะกับผู้ลงทุนที่วางแผนเกษียณในอีก 36 ปีข้างหน้านั่นเอง

สัดส่วนการลงทุนโดยเฉลี่ยตามประเภททรัพย์สินของกองทุน Target-Date Fund

ที่มา: Morningstar

ทางด้านของความเสี่ยงนั้น กองทุน Target-Date Fund อาจแบ่งได้เป็น 2 แบบคือ 1) ปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นให้ลดลงมาเรื่อย ๆ จนถึงปีที่ระบุ (Target date) ทำให้กองทุนมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่ (20% ดังตัวอย่าง) คงที่ตั้งแต่ปีที่เกษียณ โดยจะเรียกว่า ‘To retirement’ หรืออีกรูปแบบหนึ่งคือ 2) ‘Through retirement’ คือการปรับสัดส่วนในหุ้นให้ลดลงเช่นกัน แต่จะปรับลดลงช้ากว่าเพื่อให้ผู้ลงทุนมีการออมต่อเนื่องแม้ว่าจะถึง Target date แล้ว ซึ่งหมายความว่าแบบที่ 2 อาจมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นมากกว่าแบบแรก ณ ปี Target date นั่นเอง

ที่มา: Morningstar

Target-Date Fund มีในประเทศไทยหรือไม่

สำหรับประเทศไทยก็มีการให้ความสนใจการลงทุนในรูปแบบ Target-Date Fund เช่นกัน โดยปัจจุบันสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) สามารถเลือกแผนสมดุลตามอายุได้ โดยเริ่มเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2013 ด้านภาคเอกชนไทยเอง ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการพูดถึง พ.ร.บ. กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) ซึ่งการบริหารเงินกองทุนจะมีลักษณะคล้ายกันโดยใช้ชื่อว่า Life Path (ลงทุนแบบ Life Path โดยอัตโนมัติในกรณีผู้ลงทุนไม่เลือกแผนการลงทุนเอง) นอกจากนี้ในปัจจุบันมีบลจ. ที่เสนอขายกองทุนในรูปแบบ Target-Date Fund แล้วเช่น บลจ. ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund)

สุดท้ายนี้ขอฝากนักลงทุนว่าการวางแผนเกษียณนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ ท่านนักลงทุนจึงควรวางแผนออมเงินเพื่อวัยเกษียณตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้นักลงทุนสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณนะคะ